กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 03 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,304.29-1,310.47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,790 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,830 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.10 น. ของวันที่ 03/05/61)
แนวโน้มวันที่ 04 พฤษภาคม 2561
สภาทองคำโลก (WGC) รายงานอุปสงค์ทองคำทั่วโลกรวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 973.5 ตัน ในช่วงไตรมาส 1/2561 ลดลง 7% เมื่อเทียบแบบปีต่อปีและเป็นไตรมาสแรกที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551 การปรับลดลงครั้งใหญ่ที่สุดของอุปสงค์มาจากภาคการลงทุน โดยการอุปโภคทองคำแท่งและเหรียญทองปรับลดลง 15% และการซื้อกองทุน ETF ทอง ลดลง 2 ใน 3 เมื่อเทียบแบบปีต่อปี ความเสี่ยงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายทำให้นักลงทุนมองหาสินทรัพย์ที่ดีกว่า ประเด็นดังกล่าว สร้างมุมมองเชิงลบต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบหลังจากอ่อนตัวลงในช่วงก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ไม่เปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยประกาศคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50-1.75% ตามที่ได้มีการคาดไว้ แม้ว่าคณะกรรมการประเมินว่าเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% ของเฟด โดยเฟดจะดำเนินการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป และไม่มีความจำเป็นในการเร่งอัตราการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนขายทำกำไรในดอลลาร์ จึงเป็นปัจจัยพยุงราคาทองคำไว้ ทั้งนี้ การเจรจาระหว่างนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐและนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงสงครามการค้า มีกำหนดการเจราในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ ประเด็นนี้กำลังถูกจับตา เมื่อเจ้าหน้าที่ด้านอุตสาหกรรมของสหรัฐกำลังพิจารณาออกคำสั่งจำกัดบริษัทจีนบางแห่งในการจำหน่ายอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมในสหรัฐ ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐระบุว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. จีนได้ยกเลิกคำสั่งซื้อถั่วเหลืองของสหรัฐรวม 62,690 ตันสำหรับปีฤดู 2561 หากการตอบโต้กันระหว่างสหรัฐกับจีนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นก็จะกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบในลักษณะพยายามสร้างฐานราคา เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำอาจมีการดีดตัวขึ้นอีกครั้ง โดยประเมินบริเวณแนวต้านที่ 1,317-1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้หรือไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้ ก็จะเกิดแรงขายออกมาเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,317-1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,450บาท) 1,294 (19,350บาท) 1,286 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,317 (19,700บาท) 1,326 (19,850บาท) 1,337 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,302 (19,690บาท) 1,294 (19,570บาท) 1,286 (19,450บาท)
แนวต้าน 1,317 (19,920บาท) 1,326 (20,050บาท) 1,337 (20,220บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999