กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--ซีพีเอฟ
องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย มอง การขับเคลื่อนด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่มีเป้าหมายและเป็นรูปธรรม ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ จะเป็นก้าวสำคัญของการขับเคลื่อนให้ทั่วโลกสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของสัตว์ ช่วยยกระดับมาตรฐานอาหารปลอดภัยให้กับผู้บริโภค
นายสมศักดิ์ สุนทรนวภัทร หัวหน้าฝ่ายโครงการ องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ ซีพีเอฟ ได้ให้คำมั่นในการดำเนินการเลี้ยงสัตว์ด้วยความรับผิดชอบและมาตรฐานสากล ครอบคลุมทุกกิจการของบริษัทในทุกประเทศทั่วโลกและมีเป้าหมายระยะเวลาความสำเร็จที่เป็นชัดเจน โดยเฉพาะการดำเนินการยุติการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์ที่ตั้งครรภ์ยืนซองและปรับเปลี่ยนเป็นการเลี้ยงแบบคอกขังรวมให้แล้วเสร็จ สำหรับกิจการในประเทศไทยภายในปี 2568 และกิจการในประเทศอื่นๆ ภายในปี 2571 เป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับโครงการรณรงค์ "Raise Pigs Right เลี้ยงหมูด้วยใจ" ขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ที่กำลังผลักดันและเพิ่มความตระหนักผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากกระบวนการผลิตอย่างรับผิดชอบ และมีสวัสดิภาพสูง (High welfare products)
นายสมศักดิ์กล่าวว่า "การเลี้ยงสัตว์อย่างรับผิดชอบ ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ นั้นเป็นผลดีทั้งต่อสัตว์ ดีต่อธุรกิจ และดีต่อผู้บริโภค การประกาศให้คำมั่นสัญญาจากผู้ผลิตชั้นนำของไทย อย่างซีพีเอฟ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของการเลี้ยงหมูแม่พันธุ์ของประเทศและทั่วโลก"
องค์กรฯ ยังยินดีให้ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการปรับปรุงการปฏิบัติงานดูแลสัตว์ในฟาร์มให้ถูกต้องตามหลักสวัสดิภาพสัตว์สากล และจากการเยี่ยมชมฟาร์มหมูของซีพีเอฟได้เห็นความคืบหน้าของการปรับเปลี่ยนและพัฒนาฟาร์มหมูที่มีสภาพแวดล้อมให้หมูมีความเป็นอยู่ที่สบาย ประกอบกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานของฟาร์มหมูซีพีเอฟที่เป็นมิตรต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม จะช่วยสร้างความมั่นใจกระบวนการผลิตอาหารมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หมูเป็นสัตว์ฟาร์มที่ถูกเลี้ยงอย่างแออัดมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก การเลี้ยงหมูตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่สะดวกสบาย หมูสามารถแสดงออกทางพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ จะช่วยสัตว์ลดความเครียด การบาดเจ็บ และการเป็นโรคให้น้อยลง ส่งผลให้ช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะ ประชาชนได้บริโภคเนื้อหมูคุณภาพสูงและปลอดภัย องค์กรฯ จึงรณรงค์ให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตทั้งในประเทศไทยและทั่วโลกมีแนวทางในกระบวนสรรหาเนื้อหมูที่มาจากการเลี้ยงที่มีความรับผิดชอบตามหลักสวัสดิภาพเพิ่มขึ้น
จากการศึกษาข้อมูลทางออนไลน์ขององค์กรฯ พบว่า ร้อยละ 93 ของลูกค้าของซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในประเทศไทย มีความต้องการจับจ่ายผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ที่มาจากกระบวนการจัดหาจากฟาร์มที่มีการจัดการตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี สะท้อนให้เห็นถึง พลังของผู้บริโภคจะเป็นอีกส่วนที่สำคัญช่วยผลักดันให้การตระหนักในประเด็นนี้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น
ด้าน น.สพ.พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการด้านมาตรฐานการผลิตสัตว์ปีก และผู้เชี่ยวชาญสวัสดิภาพสัตว์ ซีพีเอฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า ซีพีเอฟ นับเป็นบริษัทแรกนอกเขตยุโรปที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ในด้านไก่เนื้อ ตั้งแต่ ปี 2543 และดำเนินการพัฒนาบุคลากรของซีพีเอฟในกิจการทุกประเทศเป็นผู้เชี่ยวชาญสวัสดิภาพสัตว์ปีกทำหน้าที่ตรวจสอบและให้คำแนะนำการปฏิบัติงานด้านสวัสดิภาพสัตว์ที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล และขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาการเลี้ยงไก่ไข่ไปสู่ระบบการเลี้ยงแบบปล่อยอิสระภายในโรงเรือน (Cage-Free) จะเห็นผลการศึกษาในปี 2563 ที่ถึงนี้