กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--
บมจ.เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ (APEX) ตอกย้ำเดินหน้าเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 749,962,500 ขายผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 999,950,000 หน่วย และออกวอร์แรนต์ จำนวน 499,975,000 หน่วย พร้อมปรับราคาหุ้นเพิ่มทุนเป็น 0.20 บาท จากเดิม 0.50 บาท ส่วนราคาใช้สิทธิแปลงสภาพวอแรนต์จากเดิมหุ้นละ 0.50 บาท เป็นราคา 0.40 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาดและราคาหุ้นบนกระดาน หวังนำเงินขยายโครงการ กำหนดวันจองซื้อ-รับชำระหุ้นเพิ่มทุนวันที่ 7-14 พ.ค.นี้ ด้านผู้บริหาร "พงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์" ระบุแม้ปรับราคาหุ้นเพิ่มทุน และราคาแปลงสภาพ APEX-W1 ลง แต่มั่นใจมีเงินทุนเพียงพอต่อการขยายโครงการในอนาคต เนื่องจากโครงการที่เปิดตัวแล้วมียอดขายดีตามเป้า และบางโครงการมีผู้ร่วมลงทุน
นายพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานกรรมการ บมจ. เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ หรือ APEX เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2560 มีมติเห็นชอบให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 749,962,500 ล้านบาท เพื่อออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 999,950,000 หน่วย และการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 1 (APEX-W1) จำนวน 499,975,000 หน่วย ไว้เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 นั้น
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2561 ได้มีมติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) โดยจากเดิมราคาหุ้นละ 0.50 บาท เป็นราคาหุ้นละ 0.20 บาท และราคาใช้สิทธิแปลงสภาพของ APEX-W1 จากเดิมราคาหุ้นละ 0.50 บาท เป็นราคาหุ้นละ 0.40 บาท ซึ่งเงื่อนไขและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องอื่นเป็นไปตามที่ได้อนุมัติไว้เดิมทุกประการ
ทั้งนี้ บริษัทฯได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ (Record date) ในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 999,950,000 หน่วย ที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) พร้อม APEX-W1 จำนวน 499,975,000 หน่วย เมื่อวันที่27 เมษายนที่ผ่านมา และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในวันที่ 7-14 พฤษภาคม 2561นี้
"จากสภาวะตลาดหุ้น และราคาหุ้นบนกระดานในปัจจุบัน บอร์ดจึงได้พิจารณาเห็นว่าราคาหุ้นเพิ่มทุน (RO) และราคา APEX-W1 ที่กำหนดไว้เดิม ไม่เหมาะสมที่จะทำให้การเพิ่มทุนของบริษัทประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายที่จะได้รับจากลูกค้าของโครงการแล้วกว่าพันล้านบาท จึงสามารถใช้ทดแทนกับส่วนที่ต้องการเงินเพิ่มทุนตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการใช้เงินของโครงการแต่อย่างใด และ บริษัทฯยังจะมีเงินทุนจากผู้ร่วมทุนในบางโครงการ เช่น โครงการโรงแรม Delta by Marriott and Residences ที่หาดไม้ขาว ภูเก็ต และโครงการโรงแรม Club Med and Residences ที่หาดยาว กระบี่ เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การใช้เงินทุนของบริษัทฯเพียงพอต่อการดำเนินการ" นายพงษ์พันธ์กล่าว