กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 04 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,308.80-1,314.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,790 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 30 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,820 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 04/05/61)
แนวโน้มวันที่ 07 พฤษภาคม 2561
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐกระตุ้นมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มความแข็งแกร่งมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อจำนวนชาวอเมริกันที่ขอรับสวัสดิการคนว่างงานปรับลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2516 และยอดขาดดุลการค้าสหรัฐแคบลงเป็นครั้งแรกในรอบ 7 เดือน ส่วนยอดคำสั่งซื้อโรงงานเดือนมี.ค.ก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน ข้อมูลดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ไว้ จนกดดันให้ราคาทองคำขยับขึ้นได้อย่างจำกัด อย่างไรก็ดีนักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิดต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แม้มีแนวโน้มสูงว่าจะไม่มีการบรรลุข้อตกลง เพราะคณะผู้แทนการค้าสหรัฐต้องการให้จีนลดความไม่สมดุลทางการค้าทวิภาคีในทันที และให้ยุติการอุดหนุนเทคโนโลยีล้ำสมัย ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสิทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ แม้ว่ายอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลง 11.6% มาที่ 2.59 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจจะแทบไม่ได้ช่วยบรรเทาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน เพราะสหรัฐยืนกร้านตามข้อเรียกร้อง ขณะที่จีนก็ขู่ตอบโต้ด้วยมาตรการที่ทัดเทียมกัน รวมถึงการกำหนดภาษีนำเข้าถั่วเหลืองและเครื่องบินสหรัฐ นอกจากนี้บรรดารัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น, จีน และเกาหลีใต้ เตือนถึงความเสี่ยงของการใช้ระบบกีดกันทางการค้าและเห็นพ้องในการรับประกันถึงการเปิดเสรีการค้าและการค้าระดับพหุภาคีที่ตั้งอยู่บนกฎระเบียบ โดยแถลงการณ์ร่วมของทั้ง 3 ประเทศระบุว่า "เราจะจับตาความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากนโยบายกีดกันการค้า ส่งผลให้นักลงทุนจับตาความชัดเจนจากประเด็นดังกล่าว เพื่อเป็นปัจจัยขับเคลื่อนราคาทองคำ วายแอลจีมีมุมมองว่าหากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,317-1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรออกมา โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอการย่อตัวของราคาในบริเวณแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่พยายามสร้างฐานและแกว่งตัวออกด้านข้างจนกว่าจะทะลุกรอบ 1,302-1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้นการซื้อควรรอการอ่อนตัวลงมายังบริเวณแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรในโซน 1,317-1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากหลุดบริเวณ 1,294 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ควรปรับสถานะการลงทุนอีกครั้งเพื่อรอประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,500บาท) 1,294 (19,350บาท) 1,286 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,317 (19,750บาท) 1,326 (19,900บาท) 1,337 (20,050บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,302 (19,670บาท) 1,294 (19,550บาท) 1,286 (19,430บาท)
แนวต้าน 1,317 (19,910บาท) 1,326 (20,040บาท) 1,337 (20,210บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999