กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--New Wave Marketing Network
แลนเซสส์ (Lanxess) ผู้นำในอุตสาหกรรมสารเคมีชนิดพิเศษ ประกาศการได้รับใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งชาติ (National Green Plant certificate) สำหรับโรงงานที่ตั้งอยู่ ณ เมืองหนิงโป จากกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (Ministry of Industry and Information Technology : MIIT) แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โรงงานที่หนิงโปนี้ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีปิโตรเคมิคอลแห่งหนิงโป (Ningbo Prtrochemical Econimic & Technology Development zone : NPETD) ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมทางด้านเคมีแห่งชาติที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจีน
ใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งชาตินี้เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของโครงการสร้างระบบอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Manufacturing System) ของจีนที่มีเป้าหมายเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรมไปควบคู่กับการธำรงรักษามาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างสูง ใบรับรองนี้เป็นรางวัลให้แก่โรงงานในจีน มีจำกัดจำนวนเพียงแค่หนึ่งพันแห่งเท่านั้นที่สามารถทำได้ดีที่สุดในเรื่องการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้ทันสมัยและมีความมุ่งมั่นกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว โดยนำเทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในกระบวนการผลิต
คุณ Holger Hueppeler ผู้นำของหน่วยธุรกิจสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments) ของแลนเซสส์กล่าวว่า "โรงงานของเราที่หนิงโปเป็นโรงงานที่เป็นเสมือน benchmark สำหรับโรงงานอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ เราทำได้ดีกว่าใคร ด้วยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์น้อยมากและสิ้นเปลืองพลังงานในการผลิตต่อตันค่อนข้างต่ำมาก" .
โรงงานที่ล้ำสมัยแห่งนี้ของแลนเซสส์ติดตั้งกระบวนการผลิตที่เรียกว่า Ningbo Process ซึ่งพัฒนามาจากเทคโนโลยีซึ่งได้รับสิทธิบัตรเฉพาะของแลนเซสส์เอง ที่มุ่งมั่นในการสร้างความการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในการผลิตผลิตภัณฑ์เม็ดสีไอออนออกไซด์ สีแดงเฉดเหลือง (yellow-shade red iron oxides) ในภูมิภาคเอเชีย เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิตแบบดั่งเดิมแล้ว พบว่ากระบวนการผลิตแบบใหม่นี้ปล่อยสาร Nitrogen Oxide น้อยลงมากอย่างชัดเจน รวมทั้งไม่ปล่อยก๊าซหัวเราะ (laughing gas) หรือ Nitrous Oxide ที่มีอันตรายร้ายแรงยิ่งในกลุ่มก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดนี้ยังถูกฟอกด้วยเครื่องปรับสภาพที่มีประสิทธิภาพอย่างสูงในภายหลังอีกด้วย "กระบวนการผลิตแบบใหม่ของแลนเซสส์สร้างคุณูปการให้แก่สภาพแวดล้อม ช่วยลดก๊าซหัวเราะซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญที่ไม่ได้ถูกกรองในกระบวนการผลิตแบบ Penniman process ในการผลิตเม็ดสีออกไซต์สีแดงในจีนซึ่งแต่ละปีมีค่าเท่ากับปริมาณถึง 7.6 ล้านเมตริกตันของก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ถ้าทุกโรงงานล้วนหันมาใช้กระบวนการผลิตหนิงโปของเรา จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่ากับที่บ้านเรือนในจีน 300,000 หลังปล่อยออกมาทีเดียว" คุณ Hueppeler กล่าวย้ำ .
เป้าหมายตามแผนการห้าปีฉบับที่สิบสาม
รัฐบาลจีนมีแผนงานห้าปีฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2559-2563) ที่มุ่งสนับสนุนการนำพลังงานหมุนเวียนมาใช้และมุ่งปรับปรุงการใช้ทรัพยากรเพื่อลดมลพิษในสภาวะแวดล้อม รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะผลักดันระบบอุตสาหกรรมสีเขียวไปในทิศทางเดียวกันกับโครงการ Made in China 2025 (พ.ศ. 2568) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมของจีนให้ทันสมัยทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย อย่างเช่นการเข้มงวดในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม มุ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ลง 22% ลดการบริโภคพลังงานลง 18 % และลดการทำให้น้ำสกปรกลง 23% การปล่อยสารพิษในอุตสาหกรรมตัวหลัก ๆ ทั้งหลาย (SO2 , NOX , CSB) จะต้องลดลงถึง 20% ให้ได้ภายในปี 2563
เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดั้งกล่าว MIIT เริ่มต้นโครงการให้ใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2560 ตามเงื่อนไขโรงงานที่เข้าร่วมโครงการจะต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในเรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยในการทำงาน และการประหยัดพลังงาน และจะต้องไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในโรงงานตามระยะเวลาที่กำหนด คณะกรรมการเศรษฐกิจและข่าวสาร (The Economy & Information commission) จะเป็นผู้ตรวจสอบโรงงานที่สมัครเข้ามาตามโครงการ และนำเสนอชื่อโรงงานที่เหมาะสมผู้ที่ทำได้อย่างโดดเด่นให้แก่ MIIT เพื่อทำการตรวจทบทวนในรอบสุดท้าย ในปี 2561 มีโรงงานเพียง 460 แห่งที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกของคณะกรรมการเศรษฐกิจและข่าวสารและถูกเสนอให้ MIIT คัดเลือกในรอบสุดท้าย
โรงงานหนิงโปของแลนเซสส์โดดเด่นที่สุดจากรายชื่อทั้งหมด
ขั้นต่อไป โรงงานที่สมัครเข้ามาในโครงการจะต้องพิสูจน์ว่าตัวเองโดดเด่นที่สุดในเรื่องการมีมาตรฐานการรักษาสิ่งแวดล้อมที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมของตน เหลือเพียง 200 โรงงานที่ได้รับรางวัลใบรับรองนี้ในปี 2561 "โรงงานที่หนิงโปของแลนเซสส์ทำได้ตามมาตรฐานระดับสูง จึงได้รับใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวฉบับสมบูรณ์ หมายความว่า ตามกฎหมายและกฎระเบียบทั้งหมดของรัฐบาลจีน เราทำการบริโภคพลังงาน การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์และการปล่อยสารพิษทางอุตสาหกรรม ได้ในปริมาณที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทางอุตสาหกรรม ยิ่งกว่านั้นการใช้ทรัพยากรในการผลิตต่อตันของเรายังน้อยที่สุดในบรรดาอุตสาหกรรมการผลิตเม็ดสีไอออนออกไซต์ทั้งหมดของจีนอีกด้วย" Hueppeler ย้ำอย่างภาคภูมิ
นอกจากชื่อเสียงที่ได้รับจากรางวัลแล้ว การได้รับใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งชาติยังทำให้สามารถได้รับใบอนุญาติเปิดโรงงานใหม่ ๆ ของบริษัทได้ง่ายขึ้นและถูกตรวจสอบกระบวนการผลิตน้อยลง "ยิ่งกว่านั้น เรายังเป็นโรงงานผลิตเม็ดสีไอออนออกไซต์เจ้าแรกและเจ้าเดียวของโลกในปัจจุบันที่ได้รับรางวัลใบรับรองโรงงานอุตสาหกรรมสีเขียวแห่งชาติ" Hueppeler เสริม "ทำให้เราเหนือกว่าคู่แข่ง บริษัทอื่นจึงต้องปรับปรุงโรงงานและออกแบบโรงงานหรือกระบวนการผลิตของตนเสียใหม่ โดยต้องคำนึงถึงและมีมาตรการการพัฒนาที่ยั่งยืนและปกป้องสภาพแวดล้อมในระยะยาว ถ้าเขายังคงต้องการรทำธุรกิจอย่างประสบผลสำเร็จในจีนในระยะยาว"
หน่วยธุรกิจเม็ดสีอนินทรีย์ของแลนเซสส์เป็นผู้ผลิตเม็ดสีไออนออกไซต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีผลิตภัณฑ์ชั้นนำอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์คือเม็ดสีอนินทรีย์ที่ทำมาจาก chromium oxides มีโรงงานตั้งอยู่ใน Krefeld-Uerdingen (Germany), Porto Feliz (Brazil), Starpointe Burgettstown (USA), Branston (United Kingdom), Vilassar de Mar (Spain), Sydney (Australia), และ Shanghai กับ Ningbo (China). หน่วยธุรกิจผลิตสีอนินทรีย์ (IPG business) เป็นส่วนหนึ่งภาคธุรกิจ Performance Chemicals ของแลนเซสส์ มียอดรายได้สูงถึง 1.44 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2560
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://bayferrox.com
เกี่ยวกับแลนเซสส์ (Lanxess)
แลนเซสส์เป็นบริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมสารเคมีชนิดพิเศษ (specialty chemicals) มียอดรายได้รวมกว่า 9.7 พันล้านยูโรในปี พ.ศ. 2560 และมีพนักงาน 19,200 คนอยู่ใน 25 ประเทศทั่วโลก มีโรงงานทั่วโลกถึง 74 แห่ง
ธุรกิจหลักของแลนเซสส์ คือการพัฒนา การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการผลิต (chemical intermediates) เคมีภัณฑ์เติมแต่ง (additives chemicals) ผลิตภัณฑ์สารเคมีชนิดพิเศษ (specialty chemicals) และพลาสติก
อีกทั้งยังมีการร่วมทุนกับ Saudi Aramco ในบริษัท ARLANXEO ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตยางสังเคราะห์ (synthetic rubber) แลนเซสส์เป็นบริษัทที่อยู่ในดัชนีหลักทรัพย์ที่ประเมินประสิทธิผลการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทชั้นนำระดับโลก ได้แก่ดัชนี Dow Jones Sustainability Index (DJSI World) และ FTSE4Good
source: https://lanxess.com/en/corporate/media/press-releases/trade-technical/2018-00021e/