กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จัดงานสัมมนาสุดยอดความร่วมมือด้านเทคโนโลยี (Collaboration Forum in Connected Industries: Thai-Japan) หวังเชื่อมโยงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ระหว่างบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะจากประเทศญี่ปุ่น และผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมของไทย เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีและขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยไปสู่ Industry 4.0
นายสันติ กีระนันทน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า งานสัมมนาสุดยอดความร่วมมือด้านเทคโนโลยีที่จัดขึ้นในวันนี้ (8 พ.ค.61) เป็นกิจกรรมหนึ่งในความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น อันเป็นผลสืบเนื่องจากความร่วมมือตามหนังสือแสดงเจตจำนง (Memorandum of Intent) ระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรมของไทย กับกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (Minister of Economy, Trade and Industry: METI) เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2560 โดยประเทศญี่ปุ่นพร้อมสนับสนุนกิจกรรมการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยโดยเฉพาะ 10 อุตสาหกรรม S-curve ผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยไปสู่ Industry4.0 ขณะที่ญี่ปุ่นเรียกแนวคิดนี้ว่า Connected Industries ซึ่งเป็นแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ และการปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมทั้งระบบด้วยการเชื่อมต่อบริษัท อุตสาหกรรม ข้อมูล บุคลากร และเครื่องจักรระหว่างบริษัทใหญ่และ SMEs เข้าด้วยกัน
ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยี Collaboration Forum นี้ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ ได้คัดสรรบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะจากประเทศญี่ปุ่นเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 20 บริษัท ในเทคโนโลยีด้าน Smart Factory และด้าน Smart Logistic & Supply Chain ซึ่งในส่วนของ กสอ. ได้เชิญผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานจำนวนกว่า 200 บริษัท ทั้งจากบริษัทสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ ผู้ประกอบการจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ และหน่วยงานร่วมเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม
"ผมหวังว่าการสัมมนาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีฯ ในครั้งนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการพบปะและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ระหว่างกัน โดยให้บริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีอัจฉริยะจากประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้นำเสนอเทคโนโลยีอัจฉริยะในรูปแบบ Speed Innovation Showcase บนเวทีเทคโนโลยีทั้ง 2 ด้าน (Smart Factory และด้าน Smart Logistic & Supply Chain) อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมของไทย ได้เข้าชมการสาธิตเทคโนโลยีต่างๆ จากญี่ปุ่นตามบูธที่จัดแสดงผลงาน รวมทั้งสามารถเจรจาหารือกับบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีโดยตรงเพื่อหาความร่วมมือและเชื่อมโยงธุรกิจต่อไปได้ด้วย" นายกอบชัย กล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ยังกล่าวอีกด้วยว่า การสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะเป็นลู่ทางสนับสนุนให้เอสเอ็มอีไทยมีโอกาสเชื่อมโยงความต้องการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะสมัยใหม่กับบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่น เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิตของตนเองให้สูงขึ้น มีความพร้อมปรับปรุงและพัฒนาการผลิตให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ภายใต้บริบทของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (The Fourth Industrial Revolution) ที่ขับเคลื่อนด้วยความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ