กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
ทีม Brainstrong จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2018" ครั้งที่ 15 ในประเทศไทย ด้วยการนำเสนอกลยุทธพัฒนาธุรกิจด้วยการใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล กับโจทย์ "INvent the professional salon experience of the future" หรือ "สร้างประสบการณ์ซาลอนมืออาชีพแห่งอนาคต" ให้กับแผนกผลิตภัณฑ์เพื่อช่างผมมืออาชีพ เน้นการเข้าถึงและสื่อสารกับผู้บริโภคกลุ่มมิลเลเนียล และยกระดับความสัมพันธ์กับช่างผมมืออาชีพในซาลอน เตรียมความพร้อมโค้งสุดท้ายก่อนเข้าร่วมการแข่งขัน "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2018" ชิงแชมป์ระดับโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ลุ้นชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 ยูโร (ประมาณ 1,100,000 บาท)
นายธนยศ ครุฑระเบียบ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม เป็นเวทีที่ให้การสนับสนุนนักศึกษาที่มีความสามารถ ด้วยการนำเสนอโครงงานของพวกเขาต่อคณะกรรมการผ่านการขายไอเดีย เน้นสร้างนวัตกรรมให้กับแบรนด์หรือแผนกต่างๆ ตามโจทย์ที่กำหนด ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามเทรนด์การตลาดและความงามทุกปี นวัตกรรมคือสิ่งลอรีอัลให้ความสำคัญเสมอ เราจึงเชื่อมั่นว่าการที่เราช่วยบ่มเพาะทักษะนักศึกษาด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรม จะช่วยเตรียมความพร้อมให้พวกเขาในการก้าวสู่โลกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจบนโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และไม่เคยหยุดนิ่งแบบนี้ได้เป็นอย่างดี"
ผู้ชนะเลิศ ทีม Brainstrong ประกอบด้วยนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จำนวน 3 คน จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แก่ นางสาวภัณฑิลา จินดาสถาพร นางสาวเปมิกา มาศอาณา และ นางสาวณัชชารีย์ นิธิพรธนรัตน์
"รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ชนะการแข่งขัน "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม 2018" การแข่งขันนี้ได้เปิดโอกาสให้พวกเราได้สร้างสรรค์นวัตกรรมออกมาได้อย่างอิสระ เพื่อตอบโจทย์การคิดค้นซาลอนมืออาชีพแห่งอนาคตออกมาให้ดีที่สุด เราทำการค้นคว้าข้อมูลและพบว่าลูกค้าที่มาใช้บริการซาลอนยังไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเราจึงคิดพัฒนาโซลูชั่นเพื่อช่วยสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น" ทีม Brainstrong กล่าว
"เราจึงคิดค้นนวัตกรรม "L'Oreal True You" อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ล้ำสมัย ที่มาพร้อมองค์ประกอบสำคัญ 3 ด้าน เริ่มต้นจากลูกค้าจะสามารถหาทรงผมที่เหมาะกับรูปหน้าอย่างสมจริงที่สุดผ่านเทคโนโลยี Augmented Reality และช่วยให้ช่างผมสามารถให้คำแนะนำได้ทันทีจากภาพเสมือนจริง หลังจากนั้นก็ตรวจสภาพเส้นผมด้วยเครื่องแสกน Near-Infrared เพื่อวิเคราะห์สภาพเส้นผมโดยละเอียด อาทิ พื้นสีผมที่แท้จริง ความหนาบาง ความชุ่มชื้น และความแข็งแรงของเส้นผม เพื่อจะนำไปสู่ขั้นตอนสุดท้ายก่อนการลงมือทำผมด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มา เพื่อหาทรงผม สูตรสารเคมีที่ต้องใช้ ด้วยการเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือ "Big Data" ที่เก็บข้อมูลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์สภาพเส้นผมจากผู้เชี่ยวชาญไว้ในที่เดียวกัน ทั้งหมดนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าว่าจะได้ทรงผมที่ต้องการและเหมาะกับสภาพเส้นผมของตัวเองมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับมาตรฐานการให้บริการของช่างผมแบบมืออาชีพ ทั้งยังได้เก็บฐานข้อมูลของลูกค้าที่มีประโยชน์ เพื่อใช้พัฒนาการให้บริการในอนาคตได้ต่อไป"
นอกจากนั้นทีม Brainstrong ยังปรับปรุงแอปพลิเคชัน Style My Hair ให้ช่วยบันทึกประวัติการทำผมของตัวเอง และค้นหาแบบทรงผมที่ต้องการ สามารถจองเวลาทำผมล่วงหน้า ให้คะแนนคุณภาพของช่างและร้านทำผมเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนะนำร้านทำผมให้กับผู้ใช้คนอื่นๆ โดยลูกค้าสามารถนำคะแนนสะสมที่ได้รับจากการทำกิจกรรมผ่านแอปพลิเคชัน มาแลกเป็นส่วนลดพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย
หลังจากนี้ ทีม Brainstrong จะต้องพัฒนากลยุทธ์และแผนการตลาดดิจิทัลของพวกเขาให้ครอบคลุมความต้องการของทั้งผู้บริโภค ช่างทำผม และธุรกิจซาลอนมากยิ่งขึ้น และฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อเตรียมตัวเข้าแข่งขันชิงแชมป์ระดับโลก ครั้งสุดท้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ชิงรางวัลชนะเลิศ 3 ประเภท ได้แก่ แบรนด์ เทคโนโลยี และ CSR ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 30,000 ยูโร (ประมาณ 1,100,000 บาท)
"สำหรับทีมชนะเลิศ Brainstrong ลอรีอัล ประเทศไทย เชื่อมั่นว่าน้องๆจะสามารถแสดงศักยภาพ และนำเสนอผลงานของนักศึกษาไทยบนเวทีระดับโลกออกมาได้เป็นอย่างดี และสามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยบนเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิแน่นอน" นายธนยศ กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับ โครงการ "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม"
โครงการ "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม" จัดขึ้นครั้งแรกโดยบริษัท ลอรีอัล กรุ๊ป ในปี พ.ศ. 2535 และปีนี้เป็นปีที่สองที่ได้ปรับวัตถุประสงค์ของโครงการ "ลอรีอัล แบรนด์สตอร์ม" ให้เป็น "Project & Talent Incubator" สนับสนุนโครงงานและผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เข้าสู่ตลาด และเปิดกว้างให้กับนักศึกษาในทุกระดับชั้นโดยไม่จำกัดสาขา ปัจจุบันมีนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันในโครงการมาแล้วกว่า 120,000 คน จาก 60 ประเทศทั่วโลก และสำหรับประเทศไทยได้จัดโครงการนี้ขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 15 แล้ว มีนักศึกษาจำนวนกว่า 237 คน จาก 8 มหาวิทยาลัย เข้าร่วมแข่งขันในโครงการนี้
เกี่ยวกับลอรีอัลกรุ๊ป
ลอรีอัลทุ่มเทในธุรกิจความงามมายาวนานกว่า 100 ปี โดยมีพอร์ตโฟลิโอผลิตภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งประกอบด้วยแบรนด์ความงามระดับโลกที่หลากหลายและเกื้อหนุนกัน 34 แบรนด์ ในปี 2560 ลอรีอัลกรุ๊ป มียอดขายผลิตภัณฑ์ 26.02 พันล้านยูโรและมีพนักงานทั้งสิ้น 82,600 คนทั่วโลก ในฐานะองค์กรด้านความงามชั้นนำของโลก ลอรีอัลมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่ายผ่านทุกช่องทาง ครอบคลุมถึงตลาดมวลชน ห้างสรรพสินค้า เภสัชกรรมและร้านขายยา ซาลอน ร้านค้าในสนามบิน ร้านค้าปลีก และ อี-คอมเมิร์ส
ลอรีอัลยึดมั่นในกลยุทธ์ที่สำคัญขององค์กรในการค้นคว้าวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยทีมงานวิจัยกว่า 3,885 คน ที่มุ่งตอบสนองต่อความปรารถนาด้านความงามของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ ลอรีอัลมีพันธสัญญาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับปี 2020 "Sharing Beauty With All" หรือ "แบ่งปันความงดงามให้ทุกสรรพสิ่ง" เป็นแนวทางกำหนดเป้าหมายเพื่อการพัฒนาด้านความยั่งยืนในทุกภาคส่วนของลอรีอัลกรุ๊ป www.loreal.com
เกี่ยวกับลอรีอัลประเทศไทย
ลอรีอัลประเทศไทย เป็นสาขาของบริษัทผู้นำความงามของโลก นำเข้าและจัดจำหน่าย 22 แบรนด์ระดับสากล ใน 4 แผนกผลิตภัณฑ์;
- แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค: ลอรีอัล ปารีส, การ์นิเย่, เมย์เบลลีน นิวยอร์ค และนิกซ์ โปรเฟสชั่นแนล เมคอัพ
- แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง: ลังโคม, ไบโอเธิร์ม, จิออร์จิโอ อาร์มานี , ราล์ฟ ลอเรน, คาชาเรล, กี ลาโรช,
คีลส์, ชู อูเอมูระ, วิคเตอร์ แอนด์ รอล์ฟ, ดีเซล, อีฟ แซงต์ โลร็องต์ โบเต้, เออเบิน ดีเคย์ และ อิท คอสเมติกส์
- แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ: ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล และเคราสตาส
- แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง: ลา โรช-โพเซย์, วิชชี่ และเซราวี