กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--แสนสิริ
สิริเวนเจอร์ส ดึง GDG ไทยกลุ่มนักพัฒนามือหนึ่งเทคโนโลยีกูเกิล ร่วมพัฒนาระบบสมาร์ทโฮมสุดล้ำ เพื่อสร้างนวัตกรรมต่อยอดจากแพลตฟอร์ม Google Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะหลังประกาศเปิดรองรับภาษาไทย หวังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยด้วยเวอร์ชั่นคำสั่งภาษาไทยรายแรกในประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานของผู้บริโภคไทยอย่างกว้างขวาง พร้อมเปิดแผนพัฒนาล้ำหน้ามากกว่าการทำงานพื้นฐานเปิด-ปิดไฟ เตรียมเปิดตัว Home Service Application บนแฟลตฟอร์ม Google Assistant Google Home รองรับคำสั่งภาษาไทยเสียงที่พัฒนาไปอีกขั้นครั้งแรกในงาน Techsauce วันที่ 22-23 มิ.ย.นี้ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ "พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี" เต็มรูปแบบรายแรกของไทย
นายจิรพัฒน์ จันทร์เจิดศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี บริษัท สิริ เวนเจอร์ส จำกัด (SIRI VENTURE) บริษัทร่วมทุนในรูปแบบ Corporate Venture Capital ในเครือแสนสิริทำการวิจัยและลงทุน เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ (R&D) ด้าน Property Technology อย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรกของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ GDG Thailand ( Google Developer Group) กลุ่มนักพัฒนาที่สนใจเทคโนโลยีของกูเกิลในประเทศไทย พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มGoogle Assistant ผู้ช่วยอัจฉริยะจากค่าย Google ที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานกับสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน เช่นลำโพง Google Home, แอพพลิเคชั่น Google Assistant ในระบบแอนดรอยด์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยในทุกแพลตฟอร์มให้กับผู้อยู่อาศัย ให้ผู้ใช้งานใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น โดยในการพัฒนาครั้งนี้ได้ต่อยอดฟังก์ชั่นการสั่งงานภาษาไทย ที่เล็งเห็นความสำคัญในการตอบโจทย์ผู้ใช้งานชาวไทยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากการร่วมสนับสนุนนักพัฒนาให้สร้างแอพบนแพลตฟอร์มแล้ว ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อป และการแข่งขัน Hackathon อีกด้วย
สำหรับการพัฒนาร่วมกันในครั้งนี้จะมีการเปิดตัว Home Service Application บนแพลตฟอร์มGoogle Assistant Google Home ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ ในงานTechsauce Global Summit 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 22-23 มิถุนายน 2561 และตั้งเป้าเปิดให้ใช้กับโครงการของแสนสิริในไตรมาส 3/2561 ซึ่งนอกเหนือจากฟังก์ชั่นรองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยแล้ว ยังได้ร่วมมือกับ GDG ประเทศไทย เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้ Start up ไทยเข้ามาร่วมพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เพิ่มคุณสมบัติการใช้งาน Google Assistant เวอร์ชั่นภาษาไทย เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกบ้านในโครงการของแสนสิริ อาทิ การเช็คข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของโครงการ รวมถึงการส่งพัสดุ การส่งข้อความหานิติบุคคล และการแจ้งซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านเป็นต้น ซึ่งการพัฒนาในครั้งนี้จะทำให้สามารถสั่งงานด้วยเสียงได้ และใช้งานจริงได้กับ Google Home ถือเป็นการต่อยอดให้เหมาะกับการใช้งานของคนไทยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีดิจิทัลตลอดเวลา รวมถึงทิศทางของทั่วโลกก็มีการพัฒนาด้านสมาร์ทโฮมและเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ประเทศไทยยังมีการเข้าถึงไม่มากนัก ส่วนหนึ่งคาดว่ามาจากข้อจำกัดในด้านการสื่อสารกับอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่ยังไม่ค่อยรองรับคำสั่งภาษาไทย
นอกจากนี้สิริเวนเจอร์สยังคงพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์การใช้ Smart home assistant เช่น ลำโพงสั่งการด้วยเสียงที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และถือว่าเป็นเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคด้านที่อยู่อาศัยที่เติบโตเร็วที่สุด โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเกินกว่า 50 ล้านรายในปี2561 ซึ่งเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวจากปีก่อนหน้า โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะมีผลต่อพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมการสั่งงานด้วยเสียงนั้นจะถูกพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากการเก็บข้อมูลการใช้งานจริงจากผู้ใช้งาน Google จำนวนมากในประเทศไทยด้วยระบบAI ส่งผลให้เพิ่มประสิทธิภาพของตัวเครื่องให้ตอบโจทย์ในสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
"ในต่างประเทศเองได้มีการพัฒนาไปจนถึงจุดที่ Google Assistant สามารถทำงานร่วมกับThird party หรือบริการต่างๆ ที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ด้วยการสั่งการผ่าน Google Home ได้โดยตรง เช่น การเรียกดูข้อมูลข่าวสารจาก CNBC , การเลือกดูหนังจาก Netflix, การสั่งอาหาร หรือการเรียกใช้บริการขนส่งสาธารณะออนไลน์ ซึ่งฟังก์ชั่น เหล่านี้ สามารถใช้งานด้วยการสั่งการด้วยเสียงได้ทันที เราคาดหวังว่าจะมีสตาร์ทอัพไทยรายใหม่ๆ เห็นโอกาสและอยากเข้ามาพัฒนาฟังก์ชั่นนี้ โดยใช้ประโยชนจากการเก็บข้อมูลของ Google Assistant มาพัฒนาต่อยอด" นายจิรพัฒน์กล่าว
สำหรับโรดแมปในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฮมร่วมกับสิริเวนเจอร์สนั้น เราได้แบ่งออกเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้นจะเป็นการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Home Service App ให้สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยผ่าน Google Home ได้โดยตรง โดยจะสามารถใช้งานได้จริงภายต้นไตรมาส 3ปีนี้ และในอนาคตจะพัฒนาเพื่อรองรับระบบ Internet of Things คือการใช้งานอย่างครอบคลุมสามารถสื่อสารเชื่อมโยงระหว่างสิ่งของกับสิ่งของด้วยกัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลดีกับผู้บริโภคอย่างมหาศาล
นายวิทยา อัศวเสถียร Community Manager ของ Google Developer Group Thailand กล่าวว่า GDG ประเทศไทย คือกลุ่มนักพัฒนาที่สนใจเทคโนโลยีของกูเกิล โดยการร่วมมือครั้งนี้มีขึ้นเพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นต่อยอดการใช้งาน Google Assistant เวอร์ชั่นภาษาไทยรายแรกของประเทศ จากการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องพบว่าจุดเด่นของ Google Assistant ที่ได้ร่วมมือพัฒนากับสิริเวนเจอร์ส คือ การเปิดกว้างให้ Start up ไทยสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาให้เกิดฟังก์ชั่นใหม่ๆ แบบไร้ขีดจำกัด