กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 08 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,310.40-1,317.03 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,930 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,920 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.45 น. ของวันที่ 08/05/61)
แนวโน้มวันที่ 09 พฤษภาคม 2561
ความไม่ชัดเจนเรื่องการตัดสินใจของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรณีที่อาจถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านและบังคับใช้การคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่านอีกครั้ง หากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศรุนแรงขึ้น อาจกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยและอาจจะเป็นผลลบต่อดอลลาร์ เพราะหากมีการออกมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐครั้งใหม่อาจจะจุดชนวนการตอบโต้จากอิหร่าน ให้ฟื้นฟูโครงการนิวเคลียร์ของตนเองอีกครั้ง หรือ ก่อความขัดแย้งกับพันธมิตรสหรัฐในซีเรีย, อิรัก, เยเมน และเลบานอน ซึ่งรัฐบาลอังกฤษร้องขอให้ปธน.ทรัมป์ อย่าถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ เพราะเชื่อว่าการคงไว้ซึ่งข้อตกลงนี้จะช่วยยับยั้งความก้าวร้าวในภูมิภาคของอิหร่านได้ ขณะที่ นางฟลอรองซ์ ปาร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสระบุว่า ข้อตกลงอิหร่านเป็นต้นกำเนิดแห่งสันติภาพในภูมิภาค โดยกล่าวว่า ข้อตกลงดังกล่าวไม่สมบูรณ์แบบ แต่ประสบความสำเร็จในการระงับโครงการนิวเคลียร์ทางทหารของอิหร่าน นักลงทุนจับตา ปธน.ทรัมป์จะทำการประกาศการตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์ในเวลา 01.00 น.ตามเวลาไทยในวันพุธ อย่างไรก็ตามอิหร่านกล่าวเป็นนัยว่าจะยังอยู่ในข้อตกลงปี 2558 แม้ว่าสหรัฐจะถอนตัว ส่งผลให้ความตึงเครียดลดลงและราคาทองคำอาจดีดตัวขึ้นได้ในระดับจำกัด นอกจากนี้ ดอลลาร์อยู่ใกล้จุดสูงสุดรอบ 4 เดือน โดยได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้นและแนวโน้มที่สดใสสำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ ทำให้ราคาทองคำยังคงถูกกดดันให้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้ว่าสหรัฐจะเสี่ยงต่อการสร้างปัญหาความขัดแย้งกับประเทศพันธมิตรที่ใกล้ชิด แต่หากไม่เกิดความรุนแรง หรือ บานปลาย ก็จะกระตุ้นแรงซื้อทองคำได้ไม่มากเช่นกัน นอกจากนี้ ความวิตกที่เกี่ยวกับความเสี่ยงจากข้อพิพาทการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้นักลงทุนมุมความสนใจไปที่คณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนจะเยือนกรุงวอชิงตันในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือต่อรองกับทีมเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังรอบแรกไม่บรรลุข้อตกลง ซึ่งปัจจัยพื้นฐานยังคงมีนัยยะต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยืนเหนือบริเวณแนวรับ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ซึ่งหากไม่ผ่านราคาอาจจะมีการอ่อนตัวลงอีกครั้ง โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอดูการตั้งฐานของราคาโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนซื้อขายในระยะสั้น โดยรอการย่อตัวและการตั้งฐานของราคาทองคำแล้วจึงเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติม
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,310 (19,750บาท) 1,302 (19,600บาท) 1,294 (19,500บาท)
แนวต้าน 1,326 (20,000บาท) 1,337(20,200บาท) 1,348 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,310 (19,910บาท) 1,302 (19,790บาท) 1,294 (19,670บาท)
แนวต้าน 1,326 (20,160บาท) 1,337(20,330บาท) 1,348 (20,490บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999