กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--มาร์ค มีเดีย
โรงพยาบาลพระรามเก้า จับมือ 9 โรงพยาบาลเอกชนจัดพิธีลงนามความร่วมมือ ส่งต่อผู้ป่วยเปลี่ยนไตพร้อมวางแผนดำเนินธุรกิจในปีนี้ โรงพยาบาลจะใช้งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท สร้างตึกใหม่ 16 ชั้น บนพื้นที่ 3 ไร่ ขนาด 60 เตียง เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นทั้งผู้ป่วยในประเทศและต่างประเทศที่จะเข้ามารักษา โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2562 พร้อมกันนี้ อยู่ระหว่างพิจารณาปรับปรุงและขยายอาคารจำนวน 3 ชั้น เพื่อรองรับแผนกคนไข้เด็ก สูตินารี โรคระบบทางเดินอาหาร ความงามและทันตกรรม เพื่อขยายพื้นที่รองรับ ลดความแออัด โดยโรงพยาบาลยังสามารถเพิ่มจำนวนเตียงได้อีกกว่า 100 เตียง จากปัจจุบันที่มีอยู่จำนวน 160 เตียง อย่างไรก็ตาม แม้การแข่งขันในธุรกิจโรงพยาบาลในย่านพระรามเก้าและใกล้เคียงค่อนข้างสูง ต้องอาศัยกลยุทธ์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่โรงพยาบาลพระรามเก้าจะยังคงมุ่งเน้นการรักษาผู้ป่วยและการบริการที่มีคุณภาพด้วยเครื่องมือ พนักงาน บุคลากรทีมแพทย์ชั้นนำ เพื่อทำให้เป็นโรงพยาบาลที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด และเป็น 1 ใน 5 ของผู้นำโรงพยาบาลในย่านนี้
นายแพทย์เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า โรงพยาบาลพระรามเก้า ร่วมกับ 9 โรงพยาบาลพันธมิตร จัดพิธีลงนามความร่วมมือ นำโดยโรงพยาบาลราษฎร์ยินดี (หาดใหญ่) เครือโรงพยาบาลราษฎร์ยินดี และเครือโรงพยาบาล ปากน้ำโพในการส่งต่อผู้ป่วยโรคไตเพื่อขยายโอกาสในการรักษาโดยการเปลี่ยนไตให้เข้าถึงผู้ป่วยได้มากขึ้น โดยมุ่งหวังให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการรักษาชีวิตผู้ป่วยโรคไต ด้วยความพร้อมทางการแพทย์ ทั้งทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือทางการแพทย์ ที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตให้กลับมาสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ โดยการเปลี่ยนถ่ายไตที่ได้รับการบริจาคจากสภากาชาดไทย
โรงพยาบาลพระรามเก้ายังเป็นโรงพยาบาลที่มีความพร้อมด้านการเปลี่ยนไตที่ได้รับมาตรฐานJCI และความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเพิ่มโอกาสสำหรับผู้ป่วยโรคไต ที่อยู่ในส่วนที่ห่างไกลและยังไม่มีทีมแพทย์ที่สามารถทำการเปลี่ยนไตให้กับผู้ป่วยได้ สถานการณ์โรคไตในประเทศไทยโดยข้อมูลปี 2558 โดยกระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีผู้ป่วยที่ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายที่รอการผ่าตัดเปลี่ยนไตใหม่ประมาณ 40,000 ราย แต่มีผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายไตเพียงปีละ 400รายเท่านั้น แน่นอนว่าการป้องกันไม่ให้เกิดโรคไตเป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่ง เริ่มต้นที่ตัวเองเอาใจใส่คนรอบข้าง เพราะสาเหตุส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยมารับการรักษาเกิดจากโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงยังเป็นสาเหตุหลัก แต่ก็มีผู้ป่วยที่อายุน้อยๆ ที่เข้ามารักษาด้วยอาการไตเสื่อมไปแล้วเพราะรู้ช้า ไม่ออกอาการ เนื่องจากโรคไตจะแสดงอาการก็ต่อเมื่อไตเสื่อมเกิน 90% ไปแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่เจออยู่บ่อยถือว่าเป็นสาเหตุที่น่าจะป้องกันได้คือเรื่องยา เพราะว่าบ้านเราหายาแก้อักเสบซื้อกินง่ายมากเกินไป ก็เลยทำให้ผู้ป่วยหลายคนไตเสื่อมเพราะยา นอกจากนี้ทางสถาบันโรคไตและเปลี่ยนไตโรงพยาบาลพระรามเก้ามีความพร้อมมีความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยโรคไต และผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะเปลี่ยนไต ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล นักโภชนาการที่สามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้ป่วยมั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนไตจะช่วยให้เหมือนได้ชีวิตใหม่กลับคืน
สุธน ศรียะพันธุ์ ประธานกรรมการโรงพยาบาลราษฎร์ยินดี กล่าวว่า รพ.ราษฎร์ยินดีเป็น รพ.เอกชนที่มุ่งหวังในการดูแลประชาชนที่อยู่ภาคใต้ของประเทศไทยและมีโรงพยาบาลพันธมิตรที่ร่วมโครงการลงนามส่งต่อผู้ป่วยที่เข้ารับการเลี่ยนไตกว่า 9 รพ.ชั้นนำได้แก่ รพ.ตรังรวมแพทย์, รพ.สิโรรส จังหวัดยะลา รพ.สิโรรส จังหวัดปัตตานี รพ.สิริเวชจังหวัดจันทบุรี รพ.อุบลรักษ์( ธนบุรี ) รพ.ธนบุรี จังหวัดชุมพร รพ.ปากน้ำโพ รพ.ปากน้ำโพ 2 ด้วยความร่วมมือกับโรงพยาบาลพระรามเก้าที่มีทีมแพทย์และเครื่องมือที่มีความพร้อมหากต้องผ่าตัดเปลี่ยนไตให้กับผู้ป่วย รพ.ราษฎร์ยินดีและในเครือก็จะส่งต่อให้กับ รพ.พระรามเก้า เพื่อรับการเปลี่ยนไตและการรักษาที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และมีมาตรฐานเดียวกัน รพ.ในเครือจึงจำเป็นต้องดูแลคนไข้ให้ดีที่สุด โดยเมื่อผู้ป่วยได้รับการเปลี่ยนไตแล้วผู้ป่วยสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อให้โรงพยาบาลในเครือดูแลได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเดินทางมายังกรุงเทพมหานครอีก ด้วยความร่วมมือระหว่าง 9 รพ.เอกชนนับว่าเป็นการพัฒนา องค์กร และระบบการแพทย์ของประเทศไทยให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาและสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย