กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ "BBB+" ด้วยแนวโน้ม "Positive" หรือ "บวก" โดยอันดับเครดิตสะท้อนสถานะความเป็นบริษัทโฮลดิ้งในกลุ่ม แอล เอช ไฟแนนเชียลกรุ๊ป โดยมีธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่บริษัทถือหุ้น 99.99% เป็นธุรกิจหลักของกลุ่ม โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงการได้รับเงินปันผลที่สม่ำเสมอจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนวโน้มเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะทุนของธนาคารที่แข็งแกร่งขึ้น รวมถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และแนวโน้มอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่ดีขึ้นจากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC Bank) จากไต้หวัน ทั้งนี้ อันดับเครดิตองค์กรสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินของ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่มีคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตมีข้อจำกัดจากการที่ธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อและเงินฝากที่ค่อนข้างเล็ก ตลอดจนลักษณะของผลประกอบการที่ขาดแหล่งรายได้สำคัญที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย การกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าเงินกู้รายใหญ่ และโครงสร้างเงินทุนที่อ่อนแอ
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
สถานะความเป็นบริษัทโฮลดิ้งของกลุ่มธุรกิจการเงิน
อันดับเครดิตองค์กรของบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อยู่ในระดับต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ("A-/Positive") ซึ่งเป็นบริษัทย่อยหลักของกลุ่มอยู่ 1 ขั้น ซึ่งสะท้อนถึงการด้อยสิทธิในเชิงโครงสร้าง โดยสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ของบริษัทจะด้อยกว่าสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ของธนาคาร นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงการที่บริษัทต้องพึ่งพิงรายได้เงินปันผลจากธนาคารเป็นหลัก รวมทั้งความไม่แน่นอนจากการเข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลักของ CTBC Bank ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการกำกับดูแลจากทางการ หรือการเปลี่ยนแปลงการจ่ายเงินปันผลของธนาคารให้แก่บริษัท
บริษัทย่อยของบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ประกอบด้วยธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ("A-/Positive") บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Fund) บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Securities) และบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แอดไวเซอรี่ จำกัด (LH Advisory) มูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัทแอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป อยู่ที่ระดับ 233,111 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 สถานะทางการเงินของบริษัทเกือบทั้งหมดสะท้อนถึงสถานะของธนาคาร เนื่องจากสินทรัพย์ของธนาคารมีสัดส่วนถึง 98.8% ของสินทรัพย์ของบริษัท
โครงสร้างคณะกรรมการและผู้บริหารที่แข็งแกร่งขึ้น
การเข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลักของ CTBC Bank ส่งผลให้บริษัทมีโครงสร้างคณะกรรมการบริษัทและผู้บริหารที่แข็งแกร่งขึ้น โครงสร้างปัจจุบันประกอบด้วยสมาชิกคณะกรรมการบริษัท 9 ตำแหน่งโดยเป็นผู้แทนจาก CTBC Bank 3 ตำแหน่ง และจะเพิ่มจำนวนสมาชิกอีก 2 ตำแหน่งจาก CTBC Bank โครงสร้างองค์กรของบริษัทยังจะถูกเสริมโดยทีมผู้บริหารจาก CTBC Bank ซึ่งจะเข้ามาดูแลฝ่ายธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ อันประกอบไปด้วยฝ่ายพัฒนาธุรกิจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Business Development Unit) ซึ่งรับผิดชอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น บริการธุรกรรมระหว่างประเทศและบริการด้านธุรกรรมธนาคาร ส่วนธุรกิจอีกด้านหนึ่งคือฝ่ายพัฒนาธุรกิจไต้หวันและการวางแผนบริหารจัดการทรัพย์สิน (Taiwan Business Development and Wealth Management Business Planning)
สถานะทุนแข็งแกร่ง
การเพิ่มทุนจาก CTBC Bank จำนวน 16,599 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 หลังการเข้ามาเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลักได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานทุนเดิมของบริษัท อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 19.30% ณ สิ้นปี 2560 จาก 11.16% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2560 อัตราส่วนเงินปันผลของธนาคารยังคงอยู่ที่ระดับ 40% ของกำไรสุทธิ
ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก
ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ของไทยที่มีหุ้นซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าสินทรัพย์รวมของธนาคารอยู่ที่ระดับ 230,396 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 มีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ 1.3% และเงินฝากที่ 1.2% การเป็นพันธมิตรกับ CTBC Bank จะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของฐานลูกค้าและความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ของธนาคารและบริษัทย่อยอื่นของกลุ่ม รวมถึงโอกาสในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศที่เปิดกว้างขึ้น
คุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารที่แข็งแกร่ง
สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารมีสัดส่วนอยู่ในระดับสูงที่ระดับ 65% ของพอร์ตสินเชื่อรวม ณ สิ้นปี 2560 ส่งผลถึงความเสี่ยงด้านการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่งก็ตาม สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับ 1.88% ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งสะท้อนถึงสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพสูง ต้นทุนทางเครดิตเฉลี่ยของธนาคารก็อยู่ในระดับที่ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม โดยระหว่างปี 2556 ถึง 2560 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.6% สำหรับปี 2560 ธนาคารมีต้นทุนทางเครดิตอยู่ที่ 0.4% ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.3% สำหรับสัดส่วนปริมาณสำรองหนี้สงสัยจะสูญต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารอยู่ที่ระดับ 104% ในปี 2560 เพิ่มขึ้นจาก 80.3% ในปี 2557 และ 91.4% ในปี 2558
การสนับสนุนด้านเงินทุนจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่บริษัทและบริษัทย่อยในลักษณะการให้เงินกู้ สถานะเงินทุนของธนาคารอ่อนแอและมีการกระจุกตัวของกลุ่มลูกค้าเงินฝากที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์อื่นที่จัดอันดับโดยทริสเรทติ้ง โดยกลุ่มลูกค้าเงินฝากขนาดใหญ่ยังประกอบด้วยบริษัท LH และ QH อย่างไรก็ดี ธนาคารได้ขยายฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา บัญชีเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์ (Current Account-Savings Account -- CASA) ต่อเงินฝากรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53% ณ สิ้นปี 2560 อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 107% ณ สิ้นปี 2560 จากประมาณ 90% ในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินเชื่อ ส่งผลให้สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มซึ่งอยู่ที่ระดับประมาณ 100% ณ สิ้นปี 2560 อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากรวมตั๋วแลกเงินจะอยู่ที่ระดับ 89% ณ สิ้นปี 2560 เพิ่มขึ้นจากระดับ 86% ในปีที่ผ่านมา
สภาพคล่องที่เพียงพอ
สภาพคล่องของบริษัทอยู่ในระดับที่เพียงพอ สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมอยู่ที่ระดับ 35% ในขณะที่อัตราส่วนของธนาคารอยู่ที่ระดับ 39% ณ สิ้นปี 2560 ในขณะที่สัดส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องสำหรับใช้รองรับสถานการณ์ด้านสภาพคล่องที่มีความรุนแรง (Liquidity Coverage Ratio) นั้นก็อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ แต่อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กที่ระดับ 120% และที่ระดับ 176% ของธนาคารพาณิชย์ทั้งระบบ โดยอ้างอิงข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต "Positive" หรือ "บวก" ของบริษัทสอดคล้องกับแนวโน้มอันดับเครดิตของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งว่าด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ CTBC Bank ธนาคารจะสามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มสัดส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ และ/หรือลดการกระจุกตัวของสินเชื่อและฐานเงินฝากลงได้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตอาจปรับเพิ่มขึ้นได้โดยขึ้นอยู่กับความสำเร็จของธนาคารในการขยายธุรกิจ หากประสบความสำเร็จธนาคารจะมีฐานลูกค้าที่กระจายตัวมากขึ้นครอบคลุมทั้งสินเชื่อและเงินฝาก สัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิต่อรายได้รวมจะมีค่าใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมมากขึ้น ทั้งนี้ต้องไม่กระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ สถานะเงินทุนและความสามารถในการทำกำไร
บริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
อันดับเครดิตองค์กร: BBB+
แนวโน้มอันดับเครดิต: Positive