กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทยประกาศความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงกิ้งในกลุ่มร้านค้า มีผู้ใช้แอปฯ K PLUS SHOP สูงที่สุดในตลาด ร้านค้าแห่ใช้ยอดการรับเงินต่อวันผ่านแอปฯ ปี61 สูงขึ้น 80% จากสิ้นปีที่ผ่านมา พร้อมหนุนการขายของออนไลน์เต็มที่ด้วยการเชื่อมพันธมิตรด้านโลจิสติกส์ ตั้งเป้าร้านค้าใช้แอปฯ 2 ล้านร้านค้าภายในสิ้นปีนี้
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ของไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ยอดการรับเงินต่อวันของร้านค้าในปี 2561 ผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS SHOP สูงขึ้น 80% จากสิ้นปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคหันมาจ่ายเงินด้วย QR Code แทนเงินสดมากขึ้น โดยปัจจุบันธนาคารมีร้านค้าใช้แอปฯ K PLUS SHOP เพื่อรับเงินในธุรกิจสูงที่สุดในตลาด มียอดดาวน์โหลด 1.3 ล้านร้านค้า จำนวนธุรกรรม 2.5ล้านรายการ และมูลค่าธุรกรรม 3,668 ล้านบาท
จากผลการสำรวจของ ETDA พบว่า ในปี 2559 การซื้อของออนไลน์ขึ้นมาติด 1 ใน 5 กิจกรรมยอดฮิตของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก โดยการทำธุรกิจ e-commerce ในกลุ่ม B2C ของไทยเติบโตขึ้นถึง 37.91% จากปี 2558 และคาดการณ์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลธุรกรรมการเงินในการใช้แอปฯ K PLUS SHOP ของร้านค้าทั่วไทยที่มีสัดส่วนการรับเงินผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 30% จากเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันการขายของออนไลน์ จ่ายเงินโดยใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Line Facebook Messenger เป็นช่องทางในการพูดคุยและส่งสลิปการโอนเงิน มากถึง53% ซึ่งมีหลายขั้นตอนทำให้ผู้ซื้อไม่สะดวก ต้องจำเลขที่บัญชี 10 หลัก และต้องเปิดหลายหน้าจอ ในฝั่งผู้ขายเองก็ต้องเสี่ยงกับสลิป ปลอม รวมถึงต้องเสียเวลาในการตรวจสอบข้อมูลการโอนเงินของผู้ซื้อ จากปัญหานี้ธนาคารจึงได้พัฒนาฟีเจอร์ Social Payment บน K PLUS SHOP ขึ้นมา หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การสรุปยอดโอนหรือการส่งบิลเป็น QR Code ให้ผู้ซื้อ แทนการส่งเลขที่บัญชี ในฝั่งผู้ซื้อก็สะดวกเพียงใช้ QR Code ดังกล่าวจ่ายผ่าน K PLUS ได้เลย ในฝั่งผู้ขายก็จะทราบสถานะการจ่ายเงินของผู้ซื้อโดยอัตโนมัติ
อีกฟีเจอร์ที่ทำให้ K PLUS SHOP เป็นแอปฯ ที่ร้านค้าต้องมี คือ สะสมแสตมป์ที่จะช่วยให้ SME สามารถทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ และมีโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่ใช้ K PLUS อีกกว่า 8 ล้านคน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับร้านค้าได้อีกด้วย
แนวโน้มและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้จ่ายด้วย QR Code โตอย่างมาก เห็นได้จากการที่ธนาคารกระตุ้นการใช้จ่ายกับร้านค้าชื่อดัง เช่น เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เลิฟอันดามัน ท่าเรือข้ามฟาก After you ต๋องเต็มโต๊ะ จ๊ากกี่ และข้าวต้มเจ๊โอว ซึ่งพบว่าบางร้านมีสัดส่วนยอดการใช้จ่ายผ่าน QR Code สูงถึง 30% ของยอดขายทั้งหมด
นายพัชร กล่าวทิ้งท้ายว่า เพื่อให้ K PLUS SHOP เป็นแอปฯ ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ นอกจากการพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์แล้ว ธนาคารยังเชื่อมโยงกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การบริหารจัดการธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยภายในสิ้นเดือน พ.ค. นี้จะเชื่อมต่อกับพันธมิตรด้าน Logistic เพื่อให้การส่งของออนไลน์มีความคล่องตัวและรวดเร็วมากขึ้นภายในคลิกเดียว และตั้งเป้าหมายร้านค้าใช้แอปฯ K PLUS SHOP เพิ่มเป็น 2 ล้านร้านค้าภายในสิ้นปีนี้