กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--
LIT ชื่อนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการสินเชื่อ SMEs ครบวงจร เผยงบไตรมาส 1/61 กำไรโต 6.8% หลังลูกค้าพาเหรดขอสินเชื่อลุยบิ๊กโปรเจ็กต์ จากการที่ภาครัฐเดินหน้าขยายการลงทุน ด้านผู้บริหาร "สมพล เอกธีรจิตต์" เดินหน้าสร้างผลงานปี 2561-2563 รายได้โต 20-30% ต่อปี ทั้งในแง่ของพอร์ตสินเชื่อ รายได้และยอดปล่อยสินเชื่อ ภายใต้แรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักลงทุน
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อธุรกิจเพื่อ SMEs ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกภาคสถาบันการเงินประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส1/61 มีรายได้รวม 113.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.64 ล้านบาท หรือ 18.38% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 96 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.35 ล้านบาท หรือ 6.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 34.43 ล้านบาท ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้สินเชื่ออยู่ที่ 2,191 ล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อถึง 2,780 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอัตราการเติบโตในการทำกำไรจะดูชะลอลง แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว จะพบว่าในไตรมาสนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายในการสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในปริมาณที่สูงมากอยู่ ถึงแม้ตัวเลขหนี้ที่มีอายุเกิน 90 วัน (NPLs) จะลดลงเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากบริษัทมีความมุ่งหวังที่ต้องการเห็นการเติบโตอย่างยั่งยืน และรักษาปริมาณผลกำไรสูงขึ้นต่อเนื่อง (All Time High)
นายสมพล กล่าวถึงแผนการดำเนินงานในปี 2561 ว่าบริษัทจะมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายขยายพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อรวมให้ไปถึง 2,690 ล้านบาท อีกทั้งยังกำหนดเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อ 13,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้เติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 20-30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมุ่งเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ผ่านช่องทาง Digital Marketing ในการหาลูกค้ารายใหม่ เพื่อเปิดเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการให้ผู้มุ่งหวัง (Prospect) เข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทฯ ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยมีนโยบายตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญในสัดส่วน (Reserve) 7% ของยอดลูกหนี้คงเหลือสุทธิจากหลักประกัน เพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 โดยไตรมาสที่ 1/2561 บริษัทฯมีสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) โดยอยู่ที่ระดับ 4.90% (ก่อนหักค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ) และบริษัทฯ ได้มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสที่ 1/2561 เป็น 5.8% ของยอดลูกหนี้คงเหลือจากหลักประกัน ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าเติบโตไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นคู่ค้ากับหน่วยงานราชการและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่เป็นหลัก เพื่อให้บริการสินเชื่อตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการทางธุรกิจของลูกค้าและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของ SMEs ที่ทำงานภาครัฐและภาคเอกชนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ เช่น สินเชื่อเพื่อออกหนังสือค้ำประกันซองประมูล (Bid Bond) สินเชื่อเพื่อเปิด L/C สำหรับลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อเครื่องจักรหรือวัตถุดิบจากต่างประเทศ และสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) ตลอดจนบริการรับซื้อหนี้การค้า (Factoring) เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้ลูกค้าเมื่อโครงการเสร็จสิ้น จึงทำให้มีลูกค้าพึงพอใจและกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด บริษัทฯได้ปล่อยสินเชื่อในโครงการติดตั้งเครื่องตรวจอาวุธและวัตถุระเบิด พร้อมสายพานลำเลียงสัมภาระห้องควบคุมและอุปกรณ์ในสนามบิน 2 แห่ง กับกรมท่าอากาศยาน ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโปรเจ็กต์ต่อเนื่องที่ลูกค้าทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทฯในการร่วมสร้างโอกาสการเติบโตให้กับผู้ประกอบการ SMEs ด้วยการให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย ตอบสนองความลูกค้า ทำให้ ลีซ อิท ช่วยสานฝันทุกความเป็นไปได้ของผู้ประกอบการ SMEs ภายใต้สโลแกน True Financial Partner เป็นมากกว่าการให้สินเชื่อ
และหากผู้ประกอบการ SMEs ท่านใดที่ทำงานกับภาคราชการและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และกำลังมองหาแหล่งเงินทุนที่ อนุมัติเร็ว วงเงินสูง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ต้อง ลีซ อิท เท่านั้น ท่านสามารถสมัครสินเชื่อด่วนได้ที่ www.leaseit.co.th โดยเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชม. หรือเบอร์ 095-783-1595