กรุงเทพฯ--11 ก.ย.--อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค
“สมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน” มั่นใจตลาดส่งออกสินค้าของขวัญฯ โค้งสุดท้าย ปีนี้สดใส เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วไม่น้อยกว่า 3-5 % ด้วยมูลค่าตลาดของขวัญฯ รวมทั้งระบบกว่า 20,000 ล้านบาท แนะผู้ประกอบการรักษาฐานตลาดเดิม สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และอังกฤษ ให้เหนียวแน่น พร้อมเจาะขายตรงให้มากขึ้น ชี้ตลาดใหม่โซนเอเชีย อาเซียน และแอฟริกา น่าจับตา เพราะยังมีช่องทางเข้าไปเจาะได้อีกมาก เชื่อมั่นงาน BIG & BIH October 2007 จุดพลุให้ผู้ประกอบการเปิดฤดูการขาย ดันยอดส่งออกสินค้าของขวัญฯ ไตรมาสสุดท้ายเพิ่มขึ้น 5-10%
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ นายกสมาคมของขวัญ ของชำร่วยไทยและของตกแต่งบ้าน เปิดเผยว่า ตลาดของขวัญ ของชำร่วยไทย และของตกแต่งบ้าน ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังมีแนวโน้มสดใส โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 3-5 % และมีมูลค่าตลาดส่งออกสินค้าของขวัญฯ ทั้งระบบรวมทั้งสิ้นประมาณ 20,000 ล้านบาท โดยมีตลาดหลักได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ 40% ญี่ปุ่น 14% อังกฤษ 12% ส่วนอีก 44 % เป็นตลาดในเอเชียและยุโรป ซึ่งการทำตลาดของผู้ประกอบการไทยจะต้องมีการทำอย่างต่อเนื่อง หาวิธีการใหม่ๆ เพื่อรักษาตลาดเดิมที่มีแล้ว ขณะเดียวกันมุ่งเจาะตลาดขายตรงให้มากขึ้น และพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภค
สำหรับตลาดใหม่ที่ยังมีช่องว่างเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก ได้แก่ ตลาดในเอเชีย อาทิ ประเทศอินเดีย จีน ปากีสถาน บังคลาเทศ ตลาดในอาเซียน อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ลาว เขมร เวียดนาม ตลาดในยุโรปตะวันออก อาทิ โปแลนด์ โครเอเชีย นอกจากนั้นยังมีตลาดในตะวันออกกลาง ได้แก่ ซาอุดิอาระเบีย ดูไบ บาร์เรน โอมาห์น เป็นต้น
“มูลค่ารวมของตลาดส่งออกสินค้าของขวัญฯ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ มั่นใจว่าจะดีขึ้นแน่นอน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูการขาย ลูกค้าจะมีการสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในงานแสดงสินค้าของขวัญและของใช้ในบ้าน เดือนตุลาคม 2550 หรือ BIG & BIH October 2007 ที่กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 16-21 ตุลาคมนี้ ถือเป็นการจุดประกายให้กับการขายสินค้าของขวัญฯ ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ และจะส่งผลให้ยอดขายส่งออกสินค้าของขวัญฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 5-10% รวมทั้งจะกระตุ้นยอดส่งออกทั้งระบบได้เป็นอย่างดี”
นายจิรบูลย์กล่าวต่อว่า ในขณะนี้ผู้ประกอบการทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน BIG & BIH ตุลาคม 2550 เตรียมพร้อมรับการขายอย่างเต็มที่ โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับความสนใจมากจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ สินค้าของขวัญ ซึ่งที่ผ่านมาสินค้าไทยมีจุดเด่นหลายประการ โดยนอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องคุณภาพแล้ว ยังมีรูปแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นไทย ซึ่งปัจจุบันได้รับการยอมรับจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น หากมีการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของสินค้าอย่างต่อเนื่อง จะเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการได้
งาน BIG & BIH ตุลาคม 2550 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-21 ตุลาคม 2550 แบ่งเป็น วันเจรจาธุรกิจ 16-19 เมษายน เวลา 10.00-18.00 น. และวันจำหน่ายปลีก 20-21 เมษายน เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารเดอะ ชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่ 50,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าจะมีจำนวนผู้เข้าชมงานทั้งสิ้นประมาณ 120,000 คน ได้แก่ วันเจรจาธุรกิจ 17,000 คน และวันจำหน่ายปลีก 103,000 คน
ภายในงานนอกจากจะได้พบกับผู้ผลิตผู้ส่งออกระดับประเทศแล้ว ยังจะได้พบกับนิทรรศการ THAI DESIGN TO THE WORLD พื้นที่จัดแสดงสินค้าแนวดีไซน์ บนพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ที่สำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก คัดสรรสินค้าที่ออกแบบโดดเด่นมาแสดงในงาน ซึ่งบริเวณดังกล่าวประกอบด้วย นิทรรศการ Design Forum จัดแสดงสินค้าดีไซน์เก๋จากผู้ส่งออกภายในงาน, นิทรรศการ DESIGN IN THAILAND นำผลผลิตด้านการอกแบบจากการจัดกิจกรรมของสำนักพัฒนาผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า มาจัดแสดง และนิทรรศการ Talent Thai October 2007 ซึ่งจะได้พบกับสินค้าที่หลากหลายจากนักออกแบบผลิตภัณฑ์ไทยที่มีผลงานโดดเด่นประมาณ 20 ราย ที่ได้รับคัดเลือกจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในวงการออกแบบ
นายกสมาคมของขวัญฯ กล่าวถึงกลยุทธ์การทำตลาดในตลาดเปิดเสรีที่มีความผันผวนสูงด้วยว่า ผู้ประกอบการไทยจะต้องมีการปรับตัวให้มากขึ้น ซึ่งในขณะนี้สินค้าจากประเทศจีน คู่แข่งสำคัญของไทยเริ่มได้รับความนิยมน้อยลง เนื่องจากมีการปรับราคาสินค้าขึ้นสูงถึง 10-15% ทำให้นักลงทุนต่างชาติเริ่มหันมาสนใจสินค้าของประเทศอื่นแทนที่ นับเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้จังหวะนี้ทำตลาดและเพิ่มยอดขาย โดยจะต้องคิดค้นการทำตลาดใหม่ๆ พัฒนาเรื่องดีไซน์และคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท อินดัสเทรียล ดีไซน์ เน็ทเวิร์ค จำกัด
โทร 02-203-0522