กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย' หรือ 'JKN' ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล โชว์ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 ทำกำไรสุทธิพุ่ง 53.37% ขณะที่รายได้รวมเติบโต 33.63% หลังทำยอดขายลิขสิทธิ์ซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์ ผ่านช่องทางทีวีดิจิทัลและวีดีโอออนดีมานด์ (VOD) พุ่ง รับกระแสซีรี่ส์บูมในประเทศไทย ทั้งยังควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและการขาย (SG&A) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านผู้บริหารมองแนวโน้มไตรมาส 2/61 เติบโตต่อเนื่อง หนุนครึ่งปีแรกทำผลงานได้ดี
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันผลประกอบการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแง่ของตัวเลขกำไรสุทธิที่ในไตรมาสนี้ทำได้ 70.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.37% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 46.01 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมทำได้ 345.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.63% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 258.76 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตมาจาก JKN สามารถบริหารจัดการด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซี่รี่ส์อินเดียได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างรายได้สูงสุด รวมถึงในไตรมาสนี้ที่มีรายได้เพิ่มเติมจากการจำหน่ายลิขสิทธิ์ซีรี่ส์ฟิลิปปินส์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ยังไม่มีคอนเทนต์ประเภทนี้ จึงช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/61 เติบโตได้เป็นอย่างดี ประกอบกับ บริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการบริหารและการขาย (SG&A) ที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีและสะท้อนเป็นตัวเลขกำไรสุทธิที่ปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่น
"ในไตรมาสแรกปีนี้ เราสามารถผลักดันอัตราเติบโตของกำไรสุทธิที่โดดเด่น ซึ่งมาจากความสำเร็จในการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซีรี่ส์อินเดียและซีรี่ส์ฟิลิปปินส์ ผ่านช่องทางสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัล และ Video on Demand (VOD) ได้มากขึ้น เนื่องจากคอนเทนต์ประเภทดังกล่าวยังได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่จะใช้สร้างเรตติ้งให้แก่ทางสถานีอย่างต่อเนื่อง" คุณจักรพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 บริษัทฯ มั่นใจว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยลิขสิทธิ์คอนเทนต์ประเภทซีรี่ส์อินเดียและซีรี่ส์ฟิลิปปินส์ ถือเป็นคอนเทนต์หลักที่สร้างรายได้แก่บริษัทฯ ประเมินว่าช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านสถานีโทรทัศน์ทีวีดิจิทัลและ Video on Demand (VOD) ยังได้รับความนิยมจากลูกค้าที่จะซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศ และด้วยแนวโน้มดังกล่าว ทำให้ JKN เชื่อว่าภาพรวมผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน