กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งเพิ่มจป.วิชาชีพ เปิดโอกาสจป.เทคนิคขั้นสูงปรับสถานะได้ เล็งปลดล็อคจบสาขาอื่นก็เป็นจป.ได้ พร้อมชวนเรียนอาชีวอนามัย เผยรายได้ดีมีงานรองรับ
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หรือจป.ในระดับวิชาชีพ ว่า พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 ได้กำหนดไว้ว่าผู้ที่จะทำหน้าที่เป็น จป. ระดับวิชาชีพจะต้องจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาอาชีวอนามัย หรือเทียบเท่า ซึ่งปัจจุบันสถาบันการศึกษาสามารถผลิตบัณฑิตในสาขานี้ไม่ต่ำกว่า 3,000 คนต่อปี แต่สาเหตุที่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนเจ้าหน้าที่เนื่องจากบัณฑิตบางส่วนไม่ได้สนใจ จะประกอบวิชาชีพจป.ขณะที่บางคนไม่อยากไปทำงานไกลบ้าน ซึ่งมักพบปัญหาเหล่านี้กับสถานประกอบกิจการที่อยู่ในจังหวัดไกลๆ และไม่ได้อยู่ในแหล่งอุตสาหกรรม ทั้งนี้ กฎหมายปัจจุบันได้มีข้อกำหนดให้คนที่เป็นจป.เทคนิคขั้นสูงมาแล้ว 5 ปี และสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี โดยจะต้องผ่านการอบรมและทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดจึงสามารถเป็นจป.วิชาชีพได้ ซึ่งผู้ที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ดังกล่าวสามารถอบรมได้กับหน่วยฝึกอบรมที่ได้รับอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไป กสร.ยังได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษาเพื่อให้ผลิตบัณฑิตสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบุคลากรในสาขานี้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานและได้รับค่าตอบแทนในอัตราสูง รวมไปถึงให้พิจารณาคุณวุฒิอื่น ๆ ที่ใกล้เคียงกันที่สามารถจะมาทำหน้าที่จป.วิชาชีพได้ หากพบว่ามีคุณสมบัติใกล้เคียงกสร.ก็จะกลับมาทบทวนกฎหมายเพื่อปลดล็อคข้อกำหนดของกฎหมายที่กำหนดไว้เฉพาะสาขา ทั้งนี้ การมีจป.วิชาชีพจะมีประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และภาครัฐที่จะมีผู้มีความรู้มาช่วยเหลือในเรื่องความปลอดภัยให้ทุกคนในสถานประกอบกิจการได้มีความปลอดภัยในการทำงาน