CHO มาตามนัด! งบไตรมาส 1 กวาดรายได้กว่า 870 ลบ.-เพิ่มขึ้น 308.82% ทยอยส่งมอบงานต่อเนื่อง ดันผลงานปี 61 โตแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 14, 2018 12:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ค.-- บมจ.ช ทวี หรือ CHO มาตามนัด ไตรมาส 1/61 กวาดรายได้กว่า 870.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 308.82% และมีกำไรสุทธิสำหรับงวดอยู่ที่ 33.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146.30% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังทยอยส่งมอบงานต่อเนื่อง ด้านบอสใหญ่ "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" ลั่นกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางหลังมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวทำให้ส่งมอบรถเมล์ NGV ที่เหลือไม่ได้ ส่วนธุรกิจเดิมเดินหน้าปกติ โชว์ Backlog หนากว่า 6000 ล้านบาท ดันผลงานปี 61 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) (CHO) ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบ สร้างสรรค์ ผลิตตัวถังและติดตั้งระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวกับยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมทั้งเป็นผู้ผสานเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบราง และโลจิสติกส์เข้ากับการจัดการอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1/2561 ของบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 870.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 657.91 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 308.82% และมีกำไรสุทธิสำหรับงวด อยู่ที่ 33.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.21 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 146.30% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลเนื่องมาจากรายได้ตามสัญญาที่เพิ่มขึ้น 365.54% และรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น 53.54% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน "ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 เป็นไปตามแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งทำให้รายได้ในประเทศเพิ่มขึ้นจากยอดขายกลุ่มสินค้ามาตรฐาน งานผลิตรถบรรทุก การประกอบรถโดยสารที่กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐและยอดขายต่างประเทศในกลุ่มสินค้าออกแบบพิเศษ ประกอบกับรายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้นจากการขายอะไหล่ และบริการงานซ่อมรถบรรทุก นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีกด้วย" นายสุรเดช กล่าว สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของปี 2561 บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขยายตลาดทั้งในประเทศ อาทิ การขยายฐานลูกค้าด้านการขนส่งตามหัวเมืองใหญ่ๆ การเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน และต่างประเทศ อาทิ การเจาะตลาดรถลำเลียงอาหาร , เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง และผลิตรถตามออเดอร์ เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าทยอยส่งมอบปริมาณงานในมือที่มีอยู่ประมาณ 6,000 ล้านบาท พร้อมกับเข้าร่วมประมูลงานใหม่อีกจำนวนมาก ส่วนความคืบหน้างานโครงการจัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน ภายหลังศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2561 ทางกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ในฐานะผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งดังกล่าว ได้รวบรวมประเด็นความเดือดร้อนทั้งหมดไปยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO ได้ทำสัญญาสั่งซื้ออะไหล่ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ประเทศจีนแล้ว 489 คัน และส่งมอบ รถเมล์ NGV ให้ขสมก. แล้ว 100 คัน แต่ยังไม่ได้รับเงินจาก ขสมก. และตามเงื่อนไขในสัญญาสั่งซื้ออะไหล่และแชสซีจากประเทศจีน กำหนดส่งมอบอีก 200 คัน ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่งผลทำให้ในขณะนี้กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO มีหน้าที่ต้องจ่ายเงินซัพพลายเออร์ประเทศจีนแล้ว สำหรับความคืบหน้างานโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์พร้อมอุปกรณ์ (E-Ticket) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือ "แคชบ็อกซ์" (Cash box) บนรถโดยสารประจำทาง 2,600 คัน ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างรอเอกสารจาก ขสมก. เพื่อระงับการติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือ "แคชบ็อกซ์" (Cash box) ส่วนเครื่อง E-Ticket บริษัทฯ มีแผนการตรวจรับและส่งมอบล็อตแรกจำนวน 100 เครื่องภายในเดือนพฤษภาคมนี้ เนื่องจากขสมก. เล็งเห็นว่ามีความสำคัญในอนาคตจะเข้าสู่ยุค Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ