กรุงเทพฯ--14 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,317.60-1,322.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,080 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.23 น. ของวันที่14/05/61)
แนวโน้มวันที่ 15 พฤษภาคม 2561
นโยบายเศรษฐกิจระหว่างจีนและสหรัฐ กำลังถูกจับตาภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ทวิตข้อความว่า รัฐบาลสหรัฐและจีนกำลังร่วมมือกันเพื่อเปิดทางให้บริษัท ZTE ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของจีน สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐขายสินค้าให้กับ ZTE ท่าทีประนีประนอมที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐส่งผลให้ทองคำขาดแรงหนุน ทั้งนี้รองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของประเทศจีน จะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐในวันอังคารนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ จับตาว่าจะมีความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด อย่างไรก็ตามทองคำได้รับแรงหนุน เมื่อนายจอห์น บอลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวระบุว่า "มีความเป็นไปได้" ที่บริษัทต่างๆของยุโรปที่ทำธุรกิจกับอิหร่านจะถูกคว่ำบาตร หลังสหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งความเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของรัฐบาลประเทศอื่นๆ ขณะที่สหรัฐประสบความล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงกับประเทศในยุโรปให้คว่ำบาตรอิหร่านตามสหรัฐ ซึ่งนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐ หวังว่าสหรัฐและยุโรปจะสามารถตกลงกันได้ว่าจะจัดการกับอิหร่านอย่างไร ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีจีนและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีนได้เจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอิหร่านที่กรุงปักกิ่ง เพื่อเน้นย้ำถึงความสำคัญของมิตรภาพที่มีอยู่เดิมกับอิหร่าน นอกจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเยือนกรุงมอสโกของรัสเซียวันจันทร์นี้ เพื่อพยายามทำให้ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำไว้กับชาติมหาอำนาจโลกคงอยู่ ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้เจรจากับนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี และประธานาธิบดีนของตุรกีเกี่ยวกับความพยายามดังกล่าว ความชัดเจนประเด็นคว่ำบาตรอิหร่าน ถูกใช้เป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีแนวรับบริเวณ 1,316 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนอยู่ราคาทองคำจะดีดตัวกลับไปในโซน 1,331-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนควรเน้นไปที่การทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยให้แนะนำให้รอการตั้งฐานของราคาทองคำ แต่สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้แนะนำให้รอจังหวะซื้อหากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,316 หรือ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรบริเวณแนวต้าน เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,331-1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากสามารถผ่านได้ให้รอขายทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไป เนื่องจากราคาที่เหวี่ยงลดลงจากช่วงก่อนหน้า นักลงทุนควรวางแผนการลงทุนโดยกำหนดจุดทำกำไรจุดตัดขาดทุน และควรคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,316 (19,750บาท) 1,302 (19,550บาท) 1,294 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,100บาท) 1,346 (20,250บาท) 1,356 (20,400บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,316 (19,930บาท) 1,302 (19,720บาท) 1,294 (19,600บาท)
แนวต้าน 1,337 (20,250บาท) 1,346(20,390บาท) 1,356 (20,540บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999