กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
ในปัจจุบัน “ธรรมาภิบาล” เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งในเรื่องของความโปร่งใสในการทำงาน ซึ่งถือเป็นการลดต้นทุนที่มองไม่เห็นต่าง ๆ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานอย่างเต็มที่ โดยในเบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยจะได้จัดทำบันทึกความร่วมมือในการส่งเสริมทางด้านทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาในโครงการ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม ในการนี้ ทางกระทรวงฯ จะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด และทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนค่าใช้จ่าย 1 ใน 3 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพื่อให้นักศึกษาสามารถทุ่มเทในการเรียนในหลักสูตรดังกล่าวได้อย่างเต็มความสามารถ
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาในโครงการนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนกล่าวคือ ค่าบำรุงการศึกษา 600,000 บาท ค่าจัดทำวิทยานิพนธ์ 300,000 บาท โดยทางมหาวิทยาลัยได้ให้ค่าตอบแทนแก่อาจารย์ที่สอนในหลักสูตรนี้ค่อนข้างสูง ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของบุคลากรที่เป็นส่วนสำคัญในการผลิตนักศึกษาดุษฎีบัณฑิตที่มีคุณภาพสูง โดยอาจารย์ที่สอนในหลักสูตรนี้ ส่วนใหญ่มาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับประเทศ ได้แก่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ
นอกจากการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพแล้ว นายสังศิต ยังได้กล่าวถึงการดำเนินการจัดทำโครงการห้องสมุดธรรมาภิบาลที่ได้มาตรฐานในระดับแนวหน้าของโลกด้วย ซึ่งจะเป็นแหล่งค้นคว้าสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ที่มีศักยภาพของนักศึกษาในระดับปริญญาเอก โดยในอนาคตจะย้ายไปยังอาคารสร้างใหม่ของมหาวิทยาลัย และเปิดให้บริการต่อไป
โครงการดังกล่าว ได้มีการจัดตั้งกองทุนสนับสนุน โดยมีหน่วยงานที่สนใจให้การสนับสนุนมากกว่า 20 หน่วยงาน อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โรงงานยาสูบ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) การนิคมแห่งประเทศไทย