กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ
ไอเฟค ทุ่มตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสี ดัน KONICA MINOLTA Bizhub 4 รุ่น สุดยอดเทคโนโลยีขายดีอันดับ 1 ในยุโรป และอเมริกา หวังส่วนแบ่งการตลาด 20 %
คุณดำริห์ เอมมาโนชญ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ปฎิบัติการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ จำกัด (มหาชน) หรือ ไอเฟค กล่าวว่า ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารในประเทศไทย นับเป็นอีกตลาดหนึ่งที่ยังมีความต้องการใช้งานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตลาดเครื่องถ่ายสีเริ่มเข้ามาเมื่อปี 2002 ถ้าเปรียบเครื่องเอกสารถ่ายทั้งหมดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ เครื่องถ่ายเอกสารสีก็ประมาณ 2 % แต่ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีมีการพัฒนาตลาดที่รวดเร็ว ปัจจุบัน เช่น ยุโรป อเมริกา ออสเตรียเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น สัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 30 % และเชื่อว่าการสร้างมัลติฟังก์ชั่นเข้าไปในเครื่องถ่ายคาดว่าในปีนี้ เครื่องขาวดำทำสีได้ จะมากขึ้นประมาณ 30-50 %
คุณดำริห์ กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีว่า สำหรับไตรมาสสุดท้ายนี้ในปีนี้ KONICA MINOLTA ตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสารสีไว้ที่ 20% จำนวน 500 เครื่อง มูลค่า 150 ล้านบาท พร้อมเดินหน้ารุกตลาดพร้อมกัน ทั่วประเทศ ภายใต้สโลแกน Change the way you do business เพื่อสนองตอบการทำงานอย่างแท้จริงด้วยเครื่อง KONICA MINOLTA bizhub color series 4 รุ่น ที่มีจุดเด่นถือเป็นสุดยอดเทคโนโลยี Digital Multifunction ที่มียอดขายอันดับ 1 ในอเมริกา และยุโรป ผลิตงานคุณภาพ , ลดต้นทุนกว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องพริ้นท์เตอร์ พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานสมบูรณ์แบบทั้งถ่ายเอกสาร , พิมพ์งาน , สแกน , ส่งแฟกซ์ และส่งอีเมล์
" ตอนนี้ ไอเฟคได้นำเครื่องถ่ายเอกสารสี bizhub color series เข้ามาใหม่ จำนวน 4 รุ่น โดยมีเครื่องพิมพ์ตั้งแต่ 25 แผ่น/นาที ไปจนถึง 65 แผ่น/นาที เรียกว่า ขาวดำทำสียุคใหม่ มีตั้งแต่รุ่น C252 พิมพ์ขาวดำ-สี 25 แผ่น/นาที รุ่น C352 พิมพ์ขาวดำ-สี 35 แผ่น/นาที มีรุ่นใหม่ที่กำลังนำเข้ามาคือ C451 พิมพ์ ขาวดำ-สี ความเร็ว 45 แผ่น/นาที และรุ่น C550 พิมพ์ขาวดำ 55 แผ่น/นาที สี 45แผ่น/นาที เพื่อรองรับแนวโน้มของการทำงานด้านเอกสารทางธุรกิจยุคใหม่ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวอีกทั้งยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้วยโปรแกรม Report ซึ่งสามารถตรวจดูรายละเอียดการใช้งานได้ทุกสิ้นเดือน ทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ในการใช้พาสเวิร์ดด้วยลายนิ้วมือ (Finger Vein) ทั้งยังประหยัดกว่าเครื่องเลเซอร์ พริ้นเตอร์ธรรมดากว่า 50 %”
นอกจากนี้เครื่องถ่ายเอกสารสี KONICA MINOLTA จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างด้วยคุณภาพของงานพิมพ์สี ที่ทำให้ภาพคมชัด ดูมีชีวิตชีวา มีความมันเงานับเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ทำให้สินค้า KONICA MINOLTA เป็นผู้นำด้านยอดขายอันดับ 1 ในอเมริกา และ ยุโรป
คุณดำริห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “KONICA MINOLTA มุ่งหวังส่งสินค้าที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูงสุด ในราคาที่เหมาะสม ให้กับลูกค้า ซึ่งสินค้า bizhub color series 4 รุ่น นี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาเท่ากันกับสินค้ารุ่นท็อปของแบรนด์อื่นๆ แต่สิ่งที่ KONICA MINOLTA ให้มากกว่า คือ เพิ่มฟังก์ชั่นการทำงาน และแอพพลิเคชั่นที่มากกว่า และมุ่งเน้นการบริการหลังการขายให้ลูกค้าพึงพอใจ และเชื่อมั่นมากที่สุด โดยมีบริการ IFEC CARE คอยดูแลลูกค้า เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ไอเฟค มีแผนใช้งบประมาณในการทำการตลาด เครื่องถ่ายเอกสารสี มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ในรูปแบบพริ้นต์แอดผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ , สปอตวิทยุ , การจัดอีเว้นท์โรดโชว์ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด , โฆษณาผ่านสื่อ BTSโดยเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและจะเพิ่มมากขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เป็นต้นไป รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์ตลอดปี 2550-2551 เป็นต้น
คุณดำริห์ กล่าวต่อว่า ไอเฟคจะรุกกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของเครื่องถ่ายเอกสารKONICA MINOLTA ทั้งการขายทางตรง และขายผ่านโปรเจ็กต์ใหญ่ๆ โดยเน้นที่การขายตรงเป็นหลัก ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งหน่วยงานราชการ , สถาบันการศึกษา ,โรงพยาบาล รวมถึงธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดกลาง และ กลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดที่ไอเฟคมีสาขาอยู่แล้ว อาทิ เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น ศรีราชา ภูเก็ต หาดใหญ่ มุ่งหวังสร้างฐานลูกค้า ประกอบการพัฒนา ผู้แทนจำหน่าย (ดีลเลอร์)ให้มีศักยภาพมากขึ้น
อนึ่ง สำหรับประเทศไทยปัจจุบันเครื่องถ่ายเอกสารสีมีสัดส่วนอยู่ที่ 6-7 % และจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 10-12 % โดยคาดว่าในปี 2010 เครื่องถ่ายเอกสารสีจะมีประมาณ 40-50 % ของตลาด