กรุงเทพฯ--16 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 15 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,310.30-1,314.86 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,900 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,930 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,000 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.11 น. ของวันที่15/05/61)
แนวโน้มวันที่ 16 พฤษภาคม 2561
แนวโน้มธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.เพิ่มมากขึ้น ขณะที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ ทั้งนี้ คาดการณ์ถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในปีนี้ แม้ว่ามีเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเพิ่มมากขึ้น มองว่ามีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เมื่อพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า เงินเฟ้อยังไม่บรรลุเป้าหมาย 2% ของเฟดอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์กล่าวว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเสี่ยงที่จะกดดันการลงทุนทางธุรกิจในสหรัฐ ทำให้นักลงทุนรอประเมินแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.และธ.ค.จากผลการประชุมเฟดประจำเดือนมิ.ย.อีกครั้ง อย่างไรก็ตามความตึงเครียดทางการเมืองในตะวันออกกลางจากการเปิดสถานทูตสหรัฐประจำอิสราเอลในนครเยรูซาเล็มของคณะบริหารของปธน.ทรัมป์ ทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อกองกำลังอิสราเอลสังหารผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์หลายสิบคนที่ชายแดนฉนวนกาซา เมื่อชาวปาเลสไตน์นับพันคนมุ่งหน้าเดินขบวนไปยังพื้นที่ทางตะวันออกของฉนวนกาซ่า ด้านนายเอ็มมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้ออกมาประณามเหตุการณ์ดังกล่าว ฝรั่งเศสไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของสหรัฐในการเปิดสถานเอกอัครราชทูตที่นครเยรูซาเล็ม ขณะที่เจ้าชายเตอร์คิ อัล-ไฟซาลแห่งซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า การที่สหรัฐตัดสินใจย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟมายังกรุงเยรูซาเลม จะเป็นการทำให้ตะวันออกกลายเป็นสถานที่อันตรายมากขึ้น ทั้งนี้แนะนำติดตามความตึงเครียดจากประเด็นดังกล่าว เพราะหากนำไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบในภูมิภาค ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยก็จะได้รับแรงหนุนเพิ่มเติม เบื้องต้นบริเวณ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมาในบริเวณ 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำมีการปรับตัวลงมาทดสอบแนวรับและไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรจากการแกว่งตัว สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือและสามารถรับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มากสามารถเก็งกำไรระยะสั้นได้ โดยรอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,306-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น แต่ถ้าราคาหลุดโซน 1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้ขายตัดขาดทุนทันที ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้ทยอยขายทำกำไรตามบริเวณแนวต้าน 1,326 หรือ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,302 (19,650บาท) 1,294 (19,500บาท) 1,286 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,326 (20,050บาท) 1,337 (20,200บาท) 1,346 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,302 (19,790บาท) 1,294 (19,670บาท) 1,286 (19,550บาท)
แนวต้าน 1,326 (20,160บาท) 1,337 (20,330บาท) 1,346 (20,460บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999