กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--ระยองไวร์ อินดัสตรีส์
ดีมานด์ลวดเหล็กไม่เพิ่ม ส่งผลให้ตัวเลขไม่เป็นไปตามคาด โครงการภาครัฐและเอกชนชะลอตัว ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ในขณะที่ต้นทุนขายพุ่งสูงขึ้น
นายพิพิธ เชาว์วิศิษฐ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด บมจ.ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ หรือ RWI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ต้องประสบกับผลขาดทุนในไตรมาส1 ปี 2561 จำนวน 8.26 ล้านบาท โดยลดลง44.24 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปี2560 ที่มีกำไรสุทธิ 35.98 ล้านบาทหรือลดลงกว่า 122%ส่วนรายได้รวม274.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.60 ล้านบาทเมี่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อนโดยมีผลมาจากราคาขายได้ขยับตัวเล็กน้อยตามต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นแต่ปริมาณการขายกลับลดลง ทั้งนี้ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นกว่า 34%ในขณะที่รายรับเพิ่มขึ้นเพียง 9.4%
ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นมีผลมาจากปัจจัยหลายด้าน นอกจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นแล้วเป็นที่ทราบกันดีว่าบริษัทได้ดำเนินธุรกิจมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 20 ปี ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องจักรเก่าเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะใช้เวลา 3-4 เดือน ในการปรับปรุงให้แล้วเสร็จซึ่งค่าซ่อมแซมเครื่องจักรถือเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนขาย อีกทั้งมีสินค้าและวัตถุดิบบางส่วนไม่ได้คุณภาพตามความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ การก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐมีความล่าช้าออกไป และตัวเลขการลงทุนภาคเอกชนก็ชะลอตัวลงอาทิ อาคารสูงและโครงการที่พักอาศัยใหม่ ในขณะที่ปริมาณลวดที่ผลิตออกสู่ตลาดมีมากขึ้น ทั้งผู้ผลิตลวดเหล็กรายใหม่และผู้ผลิตรายเดิมที่เพิ่มเครื่องจักรในการผลิต ในขณะที่ความต้องการยังมีจำกัด ทำให้เกิดภาวะการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง อีกทั้งบริษัทได้เดินหน้าขยายช่องทางการตลาดสู่ต่างประเทศ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายด้านต่างประเทศค่อนข้างสูง แต่เงินบาทกลับแข็งค่าอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบด้านการส่งออกโดยตรง บริษัทจึงหันกลับมาทบทวนวางแผนกลยุทธ์การส่งออกให้รัดกุมยิ่งขึ้น
ในด้านการเติบโตของตลาดและแนวโน้มการขาย ต้องดูความต้องการของตลาดลวดเหล็กทั้งภาครัฐและเอกชน ว่างานโครงการใหญ่ๆของรัฐจะเริ่มเมื่อไหร่ และภาคเอกชนจะเริ่มลงทุนเพิ่มเติมเมื่อไหร่ ซึ่งในช่วงที่เข้าฤดูฝน ยอดขายก็อาจลดลงได้เนื่องจากต้องชะลอการก่อสร้าง โดยปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ผู้บริหารกำลังดำเนินการแก้ไขและเตรียมรับกับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด