กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กฟผ. และพันธมิตร แจกหลอดตะเกียบเบอร์ 5 พร้อมประกาศปีหน้าจำหน่ายราคาพิเศษหวังลดใช้ไฟฟ้าปีละ 1,500 ล้านหน่วย

ข่าวทั่วไป Tuesday October 9, 2007 11:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ต.ค.--กฟผ.
กระทรวงพลังงาน กฟผ. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมสานโครงการ แจกหลอดตะเกียบเบอร์ 5 แก่ประชาชนทุกจังหวัดผ่านใบเสร็จค่าน้ำและค่าไฟ พร้อมจับมือผู้ประกอบการหลอดไฟ และผู้จำหน่ายรายใหญ่ ขายหลอดตะเกียบเบอร์ 5 ในราคาพิเศษ 55 บาททั่วประเทศ มุ่งลดใช้พลังงานไฟฟ้าปีละ 1,500 ล้านหน่วยหรือเป็นเงิน 4,500 ล้านบาท
วันนี้ (9 ต.ค.) ณ ห้องแกรนด์บอลรูม 1 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานงานแถลงข่าวการแจกหลอดตะเกียบเบอร์ 5 จำนวน 800,000 หลอดทุกจังหวัด และขายหลอดตะเกียบเบอร์ 5 ที่ไปรษณีย์ไทย 7-ELEVEN ซุปเปอร์สโตร์ทั่วประเทศ และพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยนายสมบัติ ศานติจารี รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า กับผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย และผู้จำหน่าย โดยได้รับเกียรติจากเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ร่วมเป็นสักขีพยานโครงการเพื่อชาติ เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5
โครงการเพื่อชาติ เลิกหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 มีเป้าหมายรณรงค์ให้เกิดการใช้หลอดตะเกียบแทนหลอดไส้ที่ยังมีในระบบจำนวน 30 ล้านหลอด เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานของประเทศอย่างยั่งยืนถึง 1,500 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละ 4,500 ล้านบาท ลดความต้องการไฟฟ้าสูงสุด 300 เมกะวัตต์ หรือเทียบเท่ากำลังผลิตของเขื่อนวชิราลงกรณ พร้อมสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่โลก 7 แสนตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้น้ำมันรถยนต์ 300 ล้านลิตรต่อปี หรือการใช้รถยนต์ 240,000 คันที่วิ่งใน 1 ปี และลดการนำเข้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้า 3,000 ล้านบาท โดยสอดคล้องกับแนวคิดที่ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกันในการช่วยเรา ช่วยโลก
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดให้มีการแจกหลอดตะเกียบเบอร์ 5 จำนวน 800,000 หลอด ทุกจังหวัด ๆ ละ 10,000 หลอด และ กทม. จำนวน 50,000 หลอด ภายในเดือนธันวาคม 2550 นี้ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จำนวน 50 ล้านบาทและงบประมาณของ กฟผ. ประมาณ 35 ล้านบาท เพื่อเป็นการนำร่องให้สาธารณชนได้มีตัวอย่างทดลองใช้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด โดยประชาชนทุกคนสามารถแจ้งความจำนงด้วยการนำใบแจ้งหนี้หรือใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟหย่อนตู้ไปรษณีย์ใกล้บ้าน ไม่
ต้องติดแสตมป์ เพื่อร่วมสุ่มรายชื่อรับหลอดตะเกียบเบอร์ 5 จากโรงเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียว และจะนำส่ง
ถึงบ้านฟรีหนึ่งบ้านต่อหนึ่งหลอดผ่านไปรษณีย์ไทย นอกจากนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 อย่างยั่งยืน พร้อมไปกับการส่งเสริมการผลิตหลอดตะเกียบในประเทศ และการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม ได้มีการร่วมมือกับผู้ผลิต / ผู้จัดจำหน่ายจำนวน 7 ราย ขายหลอดตะเกียบเบอร์ 5 ในราคา 55 บาท ผ่านผู้จำหน่ายรายใหญ่ของประเทศจำนวน 8 ราย ซึ่งรับประกันอายุการใช้งาน 1 ปี และผ่านคุณภาพมาตรฐานจาก สมอ. และ สคบ. เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นไป
ด้านนายสมบัติ กล่าวว่า ขอบคุณพันธมิตรทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานเป็นอย่างดียิ่ง ทั้ง สมอ. สคบ. บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ภายใต้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโรงเรียนในโครงการห้องเรียนสีเขียวกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่ายหลอดตะเกียบเบอร์ 5 และผู้จำหน่ายรายใหญ่ของประเทศ อย่างไรก็ตาม โครงการฯ นี้จะประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืนได้อยู่ที่การพร้อมใจกันเปลี่ยนหลอดไส้ ใช้หลอดตะเกียบเบอร์ 5 ของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปณท. กล่าวเพิ่มเติมว่า มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทุกระดับ และประเทศชาติ ปณท. มีสาขาทั่วประเทศ จำนวน 1,178 แห่ง มีความพร้อมที่จะรองรับประชาชนทั้งการแจกหลอดตะเกียบเบอร์ 5 จำนวน 800,000 หลอดสู่ทุกครัวเรือนผู้โชคดี และการจำหน่ายหลอดตะเกียบเบอร์ 5 เนื่องจากมีเครือข่ายครอบคลุม มีกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส
สำหรับผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 7 ราย ได้แก่ บริษัท ลี้กิจเจริญแสง จำกัด (LKS DAI - ICHI) บริษัท เอเชียอุตสาหกรรมหลอดไฟ จำกัด (SILVERLIGHT) บริษัท ไทยโตชิบาไลท์ติ้ง จำกัด (TOSHIBA) บริษัท ไทยเอ็นเนอร์ยี่คอนเซอร์เวชั่น จำกัด (ECONO-WATD) หจก. ศิลป์ไทยการไฟฟ้าอิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต (TOWA) บริษัท แอปเปิ้ล ไลท์ จำกัด (OPPLE) และบริษัท ไทย อิเล็คทริคซิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (HI-TEK)
ในส่วนผู้จำหน่ายที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) (7-ELEVEN) บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (BIG C) บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด (Power Mall) บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) (makro) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (Home Pro) บริษัท ซีอาร์ซี พาวเวอร์ รีเทล จำกัด (homework) และ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด (Carrfour)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ