กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--การเคหะแห่งชาติ
การเคหะแห่งชาติได้เปรียบเทียบดัชนีเศรษฐกิจในกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ ดัชนีเศรษฐกิจชุมชนของการเคหะแห่งชาติมีค่า 52.1 ดัชนีเศรษฐกิจฐานรากมีค่า 46.9 และดัชนีเศรษฐกิจของผู้มีรายได้น้อย 31.1 พบว่า ในภาพรวมดัชนีเศรษฐกิจชุมชนของการเคหะแห่งชาติมีค่าสูงกว่าดัชนีเศรษฐกิจฐานราก และดัชนีเศรษฐกิจผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากครัวเรือนในชุมชนของการเคหะแห่งชาติมีรายได้ที่แน่นอน มีเงินทุนในการประกอบอาชีพ มีตลาดขายสินค้า และครัวเรือนยังมีการออมทรัพย์ในรูปแบบต่างๆ มากกว่ากลุ่มอื่นๆ สำหรับการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติที่ตอบสนองนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กำหนด Flagship Projects ที่สำคัญ 4 โครงการ ไดแก่ 1.โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุรายได้ปานกลาง (บ้านเคหะกตัญญู คลองหลวง 1,2) เพื่อให้ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเป้าหมายจัดทำจำนวน 2 โครงการ รวม 360 หน่วย 2.โครงการเคหะประชารัฐ (ร่วมดำเนินงานกับภาคเอกชน) เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ประชาชนได้อย่างมีคุณภาพ คุ้มค่า และมีสภาพแวดล้อมที่ดี 3.โครงการตลาดเคหะประชารัฐ ได้มีการเปิดตลาดเคหะประชารัฐ 3 ประเภท ใน 4 มุมเมือง ได้แก่ ตลาดเคหะประชารัฐ "ชวนเดินเพลินใจ" บวร - ร่มเกล้า ตลาดเคหะประชารัฐ "ชุมชนสุขใจ" พหลโยธิน 44 และนนทบุรี (วัดกู้ 2) รวมถึงตลาดเคหะประชารัฐ "พลาซ่า" เยส บางพลี โดยการเคหะแห่งชาติเตรียมเดินหน้าขยายตลาดเคหะประชารัฐไปสู่ภูมิภาคต่างๆ กว่า 93 ตลาด รวม 9,900 แผงร้านค้า โดยในปี 2561 จะเริ่มดำเนินการในจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี 4.การบริหารจัดการอาคารคงเหลือ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยการเคหะแห่งชาติตั้งเป้าหมายขายในปีงบประมาณ 2561 จำนวน 13,301 หน่วย ปัจจุบัน ขายได้ 9,281 หน่วย (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2561) ในระหว่างนี้ จะจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายและลงพื้นที่รณรงค์การขายอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี