กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร
นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กิจกรรมวันถ่ายทอดเทคโนโลยีและบริการทางการเกษตรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ หรือ Field day เน้นการถ่ายทอดความรู้แบบเห็นของจริง โดยมี ศพก. เป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ต่อเกษตรกร เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรเริ่มต้นการผลิตในปีการเพาะปลูกใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีและภูมิปัญญาที่มีความเหมาะสมกับพื้นที่ มีหน่วยงานต่าง ๆ ให้บริการด้านการเกษตรตามภารกิจเพื่อสนับสนุนเกษตรกร พร้อมเผยแพร่ให้เกษตรกรรู้จักและใช้ประโยชน์จาก ศพก. และศูนย์เครือข่ายที่มีอยู่ในพื้นที่อย่างคุ้มค่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่เป็นนาข้าว จึงเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการลดต้นทุนการผลิตข้าว เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติในฤดูกาลผลิตใหม่ แม้ทุก ศพก. ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจะเน้นเรื่องข้าวเป็นพืชหลัก แต่ในแต่ละ ศพก. จะมีกิจกรรมเรียนรู้แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ตามความสนใจ ตามประโยชน์ของคนในพื้นที่นั้นๆ เช่น ศพก.นครหลวง จัดสถานีเรียนรู้ออกเป็น 4 สถานี ได้แก่ สถานีการจัดการเมล็ดพันธุ์ เน้นการสอนวิธีการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ และการใช้เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ สถานีการใช้สารชีวภัณฑ์ แนะนำวิธีการใช้เชื้อราบิวเวอร์เรีย การใช้เชื่อราไตรโคเดอร์มา การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง และระบบนิเวศในนาข้าว สถานีการจัดการศัตรูธรรมชาติ แนะนำการดูแปลงพยากรณ์ แมลงตัวดี/ตัวร้าย และวิธีการควบคุมศัตรูธรรมชาติ สถานีสุดท้าย สถานีการปรับปรุงบำรุงดิน แนะนำวิธีการไถกลบปอเทือง แจ้งเตือนเกษตรกรเพื่อให้เกิดการลดการเผาตอซัง การเก็บตัวอย่างเพื่อวิเคราะห์ดิน และการใช้สาร พด. ในการบำรุงดิน นอกจากสถานีเรียนรู้หลัก ทั้ง 4 สถานีแล้ว ยังมีการจัดนิทรรศการในวาระครบรอบ 50 ปี กรมส่งเสริมการเกษตร ด้วยการเล่าเรื่องราวถึงระบบการส่งเสริมการเกษตรตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน การส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ พร้อมแสดงผลงาน Young Smart Farmer การจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม/สถาบันเกษตรกร/วิสาหกิจ และที่สำคัญยังมีการสาธิตการใช้โดรนในการฉีดสารชีวภัณฑ์ นวัตกรรมที่จะช่วยให้เกษตรกรลดความเสี่ยงจากการโดนสารเคมีในการเกษตรระหว่างการทำนา และชมการสาธิตการไถกลบปอเทือง หนึ่งในพืชตระกูลถั่วที่มีประโยชน์ทั้งเป็นพืชบำรุงดินและพืชคลุมดิน กรมส่งเสริมการเกษตร หวังให้เกษตรกรนำความรู้จากเรียนรู้แบบเห็นของจริงนี้ ไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่การเกษตรของตนเอง เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสินค้า พร้อมสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งจากเกษตรกรสู่เกษตรกรด้วยกันเอง นายสำราญ กล่าว