กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ประสบความสำเร็จ ส่งเสริมการจัดกิจกรรมกีฬาภายในจังหวัด "วิ่งสร้างคน คนสร้างบ้าน ชุมชนสวนยางเปิดบ้านชวน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง" จังหวัดระยอง สนามแรกคึกคัก วิ่งรูปแบบใหม่ "ครอสคันทรี่" (Cross Country) ปั้นโครงการต้นแบบในการส่งเสริมการออกกำลังกาย กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา สร้างกระแสรักการออกกำลังกาย พร้อมพัฒนาชุมชนเกษตรกรรมสวนยาง เสริมรายได้จากท่องเที่ยว เชิงกีฬาอย่างยั่งยืน
นายธีรวัฒน์ สุดสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่า "มีความยินดีอย่างยิ่งที่ประชาชนในจังหวัดระยอง และพื้นที่ใกล้เคียงเกิดการรับรู้ และเข้าร่วมงาน วิ่งท่อง ล่องสวนยาง เป็นจำนวนมาก จนเกินความคาดหมาย ถึงแม้จะเป็นการจัดกิจกรรมเป็นสนามแรก ซึ่งกิจกรรมนี้เกิดขึ้นได้เพราะจังหวัดระยองได้รับการส่งเสริมจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เป็นสถานที่แรกในการจัดกิจกรรมเป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งเป็นโอกาสอันดีของชุมชนที่จะได้มีโอกาสเปิดบ้าน ให้การต้อนรับนักกีฬาและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ให้ได้มาสัมผัสธรรมชาติ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ดั้งเดิมในชุมชน ซึ่งพื้นที่การจัดการแข่งขันนอกจากจะเป็นพื้นที่ปลูกสวนยางแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีความหลากหลายทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเล และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เช่นทัวร์สวนผลไม้ อาทิ สวนทุเรียน เงาะ และมังคุด ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ แวะเวียนกันมาท่องเที่ยวตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตามการจัดกิจกรรมวิ่งในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวให้ขยายออกไปยังพื้นที่เกษตรกรของชาวสวนยางพารา ให้มีโอกาสสร้างรายได้จากช่องทางอื่นๆ โดยอาศัยอัตลักษณ์ และความร่วมมือของชุมชน ตลอดจนการกีฬา ในรูปแบบของการวิ่งในพื้นที่สวนยางที่มีความเป็นธรรมชาติ พื้นที่ 2 ข้างทางมีความสวยงาม ได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างคุณค่าทางสังคมและส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนและสร้างสรรค์" นายธีรวัฒน์ กล่าว
นายประชุม บุญเทียม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "การกีฬาแห่งประเทศไทย มีพันธกิจหลัก ในการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาออกกำลังกาย โดยให้ความรู้ในเรื่อง สุขภาพ หรือการเล่นกีฬาพื้นฐาน ส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีความตระหนัก ถึงประโยชน์ของกีฬา และการออกกำลังกาย ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนในท้องถิ่น สร้างความร่วมมือ ในการรณรงค์ให้ประชาชนในชุมชนหันมาออกกำลังกายร่วมกัน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนาให้ชุมชนสามารถจัดกิจกรรมกีฬาที่น่าสนใจ โดยชักชวนให้ประชาชนจากพื้นที่อื่นๆ มาร่วม เพื่อพัฒนาให้กลายเป็น แหล่งท่องเที่ยว เชิงกีฬาระดับชุมชนต่อไป นับเป็นการสร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นของประเทศอีกทางหนึ่ง โดยโครงการนี้จัดขึ้นที่จังหวัดระยองเป็นสนามแรก และจะจัดขึ้นในสนามต่อไปในวันที่ 2-3 มิถุนายนนี้ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้ง 2 จังหวัดถือเป็นพื้นที่ปลูกยางพาราที่สำคัญและสามารถพัฒนาต่อยอดไปสู่การท่องเที่ยวเชิงกีฬาได้"
"จังหวัดระยอง เป็นพื้นที่ที่มีการปลูกยางพารามากที่สุดในภาคตะวันออก แต่เนื่องมาจาก จากสถานการณ์สวน ทั่วประเทศที่กำลังประสบปัญหาราคายางพาราตกต่ำ การจัดกิจกรรมนี้ จะทำให้ประชาชนในชุมชนสวนยางพาราได้มีความรู้ และประสบการณ์ ในการดำเนินการจัดกิจกรรมภายในพื้นที่เองได้ โดยกิจกรรมนี้จะเป็นการสำรวจและสร้างเส้นทางการวิ่งแนวใหม่ในชุมชนของเกษตรกรชาวสวนยางพารา ในพื้นที่จังหวัดเมืองรอง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาแห่งใหม่ ที่สร้างขึ้นจากความร่วมมือของชุมชนเกษตรกรชาวสวนยางพารา โดยเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดอบรมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครจากในพื้นที่ชุมชน เข้ามาเรียนรู้เกี่ยวการวิ่งรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า "ครอสคันทรี่" (Cross Country) การจัดการด้านความปลอดภัยในการจัดการเส้นทางการวิ่ง การช่วยเหลือฉุกเฉินเบื้องต้น และความรู้ด้านการปฐมพยาบาลที่จำเป็น ในการนำไปใช้พัฒนาการจัดการแข่งขัน ด้วยความร่วมมือของคนในชุมชนเองได้อย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ชาวบ้านในชุมชนเป็นเจ้าภาพที่ดี ในการรองรับนักกีฬาและท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาทำการแข่งขันหรือมาวิ่งเพื่อสุขภาพ" นายประชุม กล่าว
นายทัตพงศ์ สิทธิโชค ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวว่า "การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมกีฬาในจังหวัด และมีความยินดีที่อย่างยิ่ง ที่ได้เห็นความสำเร็จในการจัดกิจกรรมตั้งแต่สนามแรก ซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง ในจังหวัดระยอง ทำให้ชุมชนและประชาชนเกิดแรงบันดาลใจ และมีส่วนร่วมในการสร้างแหล่งท่องเที่ยง ทางกีฬาที่มีความยั่งยืน สามารถพัฒนาการจัดกิจกรรมกีฬา ที่เน้นความสะดวก สะอาด ปลอดภัย ได้เอกลักษณ์ และยั่งยืนในอนาคต ปัจจุบันนโยบายด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (sports tourism) ก่อให้เกิด กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่นิยมการออกกำลังกายพร้อม ๆ ไปกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติจำนวนมากขึ้น ประกอบกับความร่มรื่นของธรรมชาติในชุมชนเกษตรกรชาวสวนยางพารา และวิถีธรรมชาติดั้งเดิมของคนในชุมชน เป็นเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดให้เกิดกิจกรรมการแข่งขันกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน ในจังหวัดได้อีกด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรมเพื่อสังคม เชิญชวนจิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนร่วมกันทำกิจกรรมปรับปรุงภูมิทัศน์ ด้วยการทาสีใหม่และปรับปรุงบริเวณโดยรอบศาลาประชาคมประจำหมู่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านมาบจันทร์ สถานที่สาธารณประโยชน์ส่วนกลางของชุมชน ซึ่งอยู่ใกล้เคียงเส้นทางแข่งขัน เพื่อสร้างความรัก ความสามัคคี ทำประโยชน์ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ในชุมชมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืนของจังหวัดได้ต่อไป"
"ในโอกาสการเปิดสนาม กิจกรรมการแข่งขันการวิ่งแนวใหม่ ที่เรียกว่า การวิ่งแบบ ครอสคันทรี ซึ่งเป็นกิจกรรมการแข่งขันกีฬาในภูมิภาค การกีฬาแห่งประเทศไทย มีความภาคภูมิในอย่างยิ่งที่มีผู้สนใจสมัครร่วมการแข่งขันอย่างเนืองแน่น เกินความคาดหมาย มีผู้ร่วมงานทั้งประชาชน นักวิ่ง และนักท่องเที่ยวที่รักการวิ่ง มาร่วมงานกว่า 1,000 คน ระหว่างวันที่ 19-20 พฤษภาคม 2561 ณ โรงเรียนบ้านเขายายชุม ผ่านชุมชนบ้านเพ หมู่ที่ 1 และ7 ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง ระยะทาง โดยประมาณ 7,15,24 กม. โดยตลอดเส้นทางวิ่งผ่านชุมชน ทิวสวนยางพารา อุโมงค์ไม้ไผ่ สวนผลไม้ ชมมะไฟป่าข้างทาง สลับกับแนวเขายายดาที่ร่มรื่น สวยงาม พร้อมลิ้มลองอาหารพื้นเมือง ร่วมซื้อสินค้าจากชุมชน ในท้องถิ่นมากมายและได้ร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนอีกด้วย" นายทัตพงศ์ กล่าว
เส้นทางวิ่งผ่านชุมชน ทิวสวนยางพารา อุโมงค์ไม้ไผ่ สวนผลไม้ ชมมะไฟป่าข้างทาง สลับกับแนวเขายายดาที่ร่มรื่น สวยงาม
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ยังได้จัดพื้นที่สำหรับจัดจำหน่ายผลไม้ที่ขึ้นชื่อของจังหวัด เช่น ทุเรียน เงาะ รวมทั้งสินค้าพื้นเมืองคุณภาพระดับ OTOP ของจังหวัด ให้นักวิ่ง และนักท่องเที่ยวทุกท่าน ได้ชิมของดีของอร่อยประจำจังหวัดระยอง ได้ทั้งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ได้แวะเที่ยว และอร่อยกับอาหารพื้นถิ่นของระยองอีกด้วย
ด้านผู้นำชุมชน นายจรูญ สุทัดสันต์ สมาชิก อบต. หมู่ที่ 7 บ้านมาบจันทร์ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง และ นางสาววันดี อินทร์พรม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านมาบจันทร์ ได้กล่าวถึงความยินดีที่ได้มีโอกาสอำนวยความสะดวก เส้นทาง และสถานที่จัดกิจกรรม รวมทั้งมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม ซึ่งอาสาสมัครที่ผ่านการอบรม และชาวบ้าน มีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสต้อนรับนักวิ่ง และนักท่องเที่ยวที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ มั่นใจด้านความร่วมมือของคนในชุมชน พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว สร้างกระแสรักการออกกำลังกาย และพัฒนาศักยภาพให้สามารถจัดกิจกรรมเองได้ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนเกษตรกรรมสวนยาง สามารถเสริมรายได้จากการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างยั่งยืน