กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 21 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,281.70-1,291.99 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,730 บาท โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,730 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 21/05/61)
แนวโน้มวันที่ 22 พฤษภาคม 2561
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนบรรเทาลง เมื่อ 2 ประเทศตกลงที่จะล้มเลิกคำขู่เรื่องการเก็บภาษี โดยนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐและนายแลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจระดับสูงของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กล่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงกรอบการดำเนินงานสำหรับจัดการกับความไม่สมดุลทางการค้าในอนาคตเมื่อในวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่จีนยอมจะนำเข้าพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ด้านเกษตรกรรมและบริการจากสหรัฐเพิ่มมากขึ้นเพื่อลดยอดขาดดุลการค้ารายปีที่สหรัฐมีต่อจีน สอดคล้องกับคำกล่าวของนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งเป็นหัวหน้าผู้เจรจาของจีนว่า การเจรจา"อยู่ในเชิงบวก, เน้นด้านการปฏิบัติ, อยู่ในเชิงสร้างสรรค์ และมีผลที่ดี ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุลแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่รอบ 5 เดือน โดยแตะจุดสูงสุดที่ 93.860 สงครามการค้าของสหรัฐกับจีนที่คลี่คลายลง หนุนความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง จนกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง อย่างไรก็ตามนายแลร์รี คุดโลว์ กล่าวว่า ยังเร็วไปที่สหรัฐจะมั่นใจได้ว่า จีนจะลดปัญหาการขาดดุลการค้ากับสหรัฐลง 200,000 ล้านดอลลาร์ เพราะยังต้องทำรายละเอียดต่างๆซึ่งต้องใช้เวลาเจรจาให้ชัดเจน นอกจากนี้นักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) หรือ FOMC Meeting Minutes ครั้งล่าสุดของเฟดในกลางดึกคืนวันพุธ เพื่อดูสิ่งบ่งชี้เกี่ยวกับอัตราความเร็วของวงจรการคุมเข้มนโยบายในปัจจุบัน ซึ่งหากรายงานบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะยอมรับได้ที่อัตราเงินเฟ้อจะอยู่เหนือเป้าหมาย และยังคงยืนยันว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าตลาดแรงงานอยู่ในภาวะตึงตัว ดัชนีดอลลาร์อาจเกิดแรงขายทำกำไรออกมาและราคาทองคำอาจฟื้นตัวขึ้นได้ ด้านราคาทองคำในประเทศได้รับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า เมื่อบอนด์ยิลด์ไทยกับสหรัฐห่างกันมากขึ้น ส่งผลให้เงินไหลออก กดดันเงินบาทให้อ่อนค่าลง สำหรับการลงทุนทองคำ แนะนำเน้นทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว และติดตามปัจจัยที่เข้ามากระทบเพื่อเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำเพิ่มเติม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลัง โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ค่อยๆอ่อนตัวลง โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (19,500บาท) 1,271 (19,350บาท) 1,263 (19,250บาท)
แนวต้าน 1,297 (19,800บาท) 1,306 (19,950บาท) 1,315 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,280 (19,670บาท) 1,271 (19,530บาท) 1,263 (19,410บาท)
แนวต้าน 1,297 (19,940บาท) 1,306 (20,080บาท) 1,315 (20,210บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999