กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เดินหน้ายกระดับการบริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าผลักดัน กปภ. 234 สาขา ผ่านมาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center หรือ GECC) ภายในปี 2562 มุ่งหน้าพัฒนาให้เป็นองค์กรยุคใหม่ตามนโยบาย "PWA 4.0"
นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ(วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า กปภ. ปรับทิศทางการบริหารองค์กรโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานทุกมิติอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ การบริการลูกค้ารูปแบบใหม่ ๆ ที่สร้างความพึงพอใจและภาพลักษณ์ที่ทันสมัยให้กับองค์กร เช่น การขอติดตั้งประปาใหม่ผ่านเว็บไซต์ การแจ้งค่าน้ำประปาผ่านสมาร์ทโฟน การชำระค่าน้ำประปาผ่านแอปพลิเคชั่น การชำระค่าน้ำประปาแบบ Drive Thru ฯลฯ ซึ่งการพลิกโฉมการบริการดังกล่าว มีเป้าหมายสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ผลักดันให้มีศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center หรือ GECC)เพื่อให้คำแนะนำ อำนวยความสะดวก และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่เดินทางมาติดต่อหน่วยงานของรัฐ โดยมุ่งหวังให้มีการบริหารจัดการที่โปร่งใส เข้าถึงง่าย รวดเร็ว และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2559 – 2560 กปภ. ได้รับการรับรองมาตรฐาน GECCทั้งหมด 10 สาขา ประกอบด้วย กปภ.สาขาอุดรธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ นครพนม นครศรีธรรมราช ปากพนัง พัทยา ระนอง สุราษฎร์ธานี และอุบลราชธานี สำหรับปี 2561 กปภ. ตั้งเป้าหมายท้าทายตัวเองแบบก้าวกระโดด โดยมอบหมายให้ กปภ. ทุกสาขายึดถือเป็นนโยบายในการเตรียมความพร้อมเข้าร่วมการตรวจสอบจากคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ราชการสะดวกและจะดำเนินการต่อเนื่องเพื่อผลักดันให้ กปภ.ทุกสาขาผ่านการรับรองมาตรฐาน GECC ในปี 2562
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรฐานศูนย์ราชการสะดวก (Government Easy Contact Center หรือ GECC)ช่วยยืนยันความก้าวหน้าในการพัฒนาองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ตลอดจนช่วยเสริมภาพลักษณ์องค์กรยุคใหม่ตามนโยบาย "PWA 4.0" ที่รวดเร็ว ทันสมัย เชื่อถือได้