กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--บีโอไอ
บีโอไอเผยผลจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2018 เกินเป้าทั้งจำนวนการเจรจาจับคู่ธุรกิจและมูลค่า ซื้อขาย โดยมีมากกว่า 7,000 คู่ มูลค่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต กว่า 12,000 ล้านบาท พร้อมจับมือ TARA หนุนผู้ประกอบการไทยหันมาใช้ระบบอัตโนมัติมากขึ้น เตรียมจัดเจรจาจับคู่ธุรกิจกลุ่มชิ้นส่วนอากาศยาน
นางสาวกรองกนก มานะกิจจงกล ผู้อำนวยการกองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยถึงผลการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ 2018 ระหว่าง วันที่ 16–19 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมาว่า มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจภายในงานจำนวนทั้งสิ้น 7,211 คู่ คิดเป็น มูลค่าที่จะซื้อขายชิ้นส่วนในอนาคตประมาณ 12,706 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ (เป้าหมาย 6,500 คู่ มูลค่า 12,000 ล้านบาท ) โดยกลุ่มที่มีการเจรจาธุรกิจสูงสุดของการจัดงานครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วน ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักรกล ตามลำดับ ขณะเดียวกันมีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติเข้าชมงานตลอดทั้ง 4วัน จำนวน 40,627 คน
"ความสำเร็จของซับคอนไทยแลนด์ นอกจากมูลค่าการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการและผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย ซึ่งในอนาคตซับคอนไทยแลนด์จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการจัดซื้อจัดหาชิ้นส่วนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตระดับภูมิภาค ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด" นางสาวกรองกนกกล่าว
ภายหลังการจัดงานซับคอนไทยแลนด์ กองพัฒนาและเชื่อมโยงการลงทุนจะร่วมมือกับ กลุ่มผู้ประกอบการระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ไทย(TARA) เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในกลุ่มดังกล่าว หันมายกระดับและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยการนำระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มาใช้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มยานยนต์แห่งอนาคต อุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ และอุตสาหกรรมอากาศยาน
นางสาวกรองกนก กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ บีโอไอจะจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอากาศยานโดยมีบริษัทชั้นนำทั้งในและจากต่างประเทศ ร่วมพบปะและเจรจากับบริษัทรับช่วงการผลิตของไทย อาทิ แอร์บัสกรุ๊ป บริษัทโบอิงจำกัด บริษัทเทอร์ไบน์แอโร เอเชีย จำกัด ไทรอัมพ์กรุ๊ป บริษัทซีเนียร์ แอโรสเปซ จำกัด บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด เป็นต้น