กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,288.90-1,295.55 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,790 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,770 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.41 น. ของวันที่ 23/05/61)
แนวโน้มวันที่ 24 พฤษภาคม 2561
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เผชิญการต่อต้านจากสภาคองเกรสทันที สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอย่างน้อย 27 คน จาก 100 คนของทั้งพรรครีพับลิคกันและพรรคเดโมแครเรียกร้องให้ใช้ไม้แข็งจัดการกับจีน และ กล่าวหาว่าผู้นำสหรัฐยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันจากจีนในการผ่อนปรนต่อบริษัทบริษัท ZTE Corp ซึ่งยอมรับว่าละเมิดการคว่ำบาตรอิหร่าน ล่าสุด ปธน.ทรัมป์ ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน และเสนอแผนปรับเงินบริษัท ZTE Corp สูงถึง 1.3 พันล้านดอลลาร์ จนสร้างความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าอีกครั้ง ประเด็นดังกล่าวได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับการเลือกตั้งกลางวาระของสหรัฐในเดือนพ.ย.จนกระตุ้นแรงซื้อทองคำ ทั้งนี้รายละเอียดการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังคงคลุมเครือ นอกจากนี้ปธน.ทรัมป์ ของสหรัฐกำลังพิจารณามาตรการการค้าในการลดการส่งออกเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของสหภาพยุโรป (EU) มายังสหรัฐลงประมาณ 10% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการขอยกเว้นภาษีของ EU จะไม่สอดคล้องกับความต้องการของทำเนียบขาว ขณะที่ EU เสนอแนวทางเปิดตลาดให้กว้างขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์สหรัฐ รวมถึง รถยนต์ แต่ดูเหมือนอียูจะไม่สามารถโน้มน้าวสหรัฐให้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าต่อเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมของอียูได้ อีกทั้งราคาทองคำได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจาก ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะไม่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้คาดว่าการเจรจาระดับสูงระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีแนวโน้มจะเริ่มต้นใหม่หลังวันที่ 25 พ.ค. ทันทีที่การซ้อมรบทางทหารร่วมกันระหว่างสหรัฐ-เกาหลีใต้เสร็จสิ้นลง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำยังมีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,297-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ แต่หากไม่ผ่านนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายและการย่อตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังพยายามทดสอบแนวต้านที่ 1,297 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้น ยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง สำหรับการทำกำไร ให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไปที่ 1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนให้เน้นไปที่การเข้าซื้อเก็งกำไร ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (19,400บาท) 1,271 (19,250บาท) 1,263 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,297 (19,700บาท) 1,306 (19,850บาท) 1,315 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,280 (19,600บาท) 1,271 (19,470บาท) 1,263 (19,350บาท)
แนวต้าน 1,297 (19,870บาท) 1,306 (20,010บาท) 1,315 (20,140บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999