กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน แจงนายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการกระทบการดำรงชีวิตลูกจ้างมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ เผยปี 61 คณะกรรมการสวัสดิการฯ วินิจฉัยให้ลูกจ้างได้รับค่าชดเชยพิเศษกว่า 8 ล้านบาท
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ได้กำหนดให้ความคุ้มครองลูกจ้างในกรณีที่นายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการไปตั้ง ณ สถานที่อื่นอันมีผลกระทบสำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว โดยให้สิทธิลูกจ้างที่ไม่ประสงค์จะไปทำงานด้วย สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างกับนายจ้างได้และมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษ ไม่น้อยกว่าค่าชดเชยที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับกรณีที่ถูกเลิกจ้าง ในกรณีที่นายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าชดเชยพิเศษ ลูกจ้างมีสิทธิยื่นคำร้องให้คณะกรรมการสวัสดิการแรงงานพิจารณาวินิจฉัยในเรื่องสิทธิดังกล่าวได้ โดยในปีงบประมาณ 2561 คณะกรรมการฯ ได้รับคำร้องและวินิจฉัยให้ลูกจ้างได้รับค่าชดเชยพิเศษไปแล้ว จำนวน 18 ราย รวมเป็นเงิน 8,070,960 บาท
อธิบดีกสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการย้ายสถานประกอบกิจการขึ้นก็เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามกฎหมายได้กำหนดเงื่อนไขและขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมายไว้ เช่น การกำหนดระยะเวลาให้นายจ้างแจ้งแก่ลูกจ้างล่วงหน้าก่อนการย้ายสถานประกอบกิจการ กำหนดระยะเวลาบอกเลิกสัญญาของลูกจ้าง เป็นต้น จึงขอให้นายจ้าง ลูกจ้างทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติตามกฎหมายให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ถึง 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1506