กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--โครงการล้ง 1919
ได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง สำหรับ ล้ง 1919 ท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าเรือประวัติศาสตร์อายุกว่า168 ปี ที่ปัจจุบันเป็นพื้นที่สร้างสรรค์สุดฮิป ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะเป็นจุดเชื่อความสัมพันธ์ไทย-จีน และเป็นที่ตั้งของอาคารโบราณอันทรงคุณค่า จึงริเริ่มLHONG Experience (ล้ง เอ็กซ์พีเรียนซ์) ที่ครั้งนี้ ล้ง 1919 จะไม่ใช่เพียงสถานที่รักษาประเพณีและทรัพย์สมบัติชาติจากอาคารโบราณเพียงเท่านั้น แต่ยังสืบทอดให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้ถึงวัฒนธรรมอันดีงาม โดยการส่งต่อ "ประสบการณ์" ผ่านเป็นกิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดปี จึงได้จัดแถลงข่าว LHONG Experience ขึ้น ณ โบเหวินฮอลล์ โครงการล้ง 1919 เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา
ดร.ศรัณฐ์ หวั่งหลี ผู้บริหารโครงการ ล้ง 1919 กล่าวว่า "ล้ง 1919 ได้ทำความรู้จักกับทุกคนอีกครั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 หลังจากหลับใหลมายาวนาน เราต้องขอขอบคุณสำหรับการตอบรับที่ดีมากจากทุกฝ่าย ดังนั้น ในฐานะของท่าประวัติศาสตร์ศิลป์ไทย-จีน ล้ง 1919 จึงไม่ใช่เพียงสถานที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเป็นศูนย์กลางรวบรวมความรู้ในแง่ศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้ได้อย่างมีสุนทรียภาพ ล้ง 1919 จึงริเริ่ม LHONG Experience กิจกรรมที่ให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ในแบบฉบับของล้ง มีทั้งหมด 3 ส่วน คือ LHONG Wisdom ประสบการณ์ความรู้ไทย-จีน, LHONG Life ประสบการณ์ไลฟ์ไตล์สุดฮิปและ LHONG Heritage ประสบการณ์แห่งมรดกวัฒนธรรมอันงดงาม ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดจะเกิดขึ้นตลอดทั้งปี 2561 จนถึงต้นปี 2562 ด้วยความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน"
"สำหรับ LHONG Wisdom (ล้ง วิสดอม) เป็นกิจกรรมส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย-จีนโดยจัดกิจกรรม 3 กิจกรรม ในรูปแบบต่างๆ ได้แก่LHONG Wisdom Competition กิจกรรมตอบปัญหาภูมิปัญญาจีน ในรูปแบบการสอบจอหงวน, School of LHONG โรงเรียนสอนศิลปะและวัฒนธรรมจีนผ่านช่องทางออนไลน์ และ LHONG Awards การมอบรางวัลเกียรติยศแก่บุคคลที่มีคุณูปการต่อวงการศิลปวัฒนธรรมและความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดได้รับความร่วมมือเอื้อเฟื้อข้อมูลวิชาการจาก ศูนย์บริการวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมจีน จากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ"
ด้าน มร.เฉินโป๋เชียน ตัวแทนจากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ผู้ร่วมสนับสนุนในโครงการกล่าวว่า "ประเทศไทยและจีนเป็นพี่น้องกัน เป็นคำกล่าวที่ได้ยินจากผู้ใหญ่มาตั้งแต่เด็ก เรามีความผูกพันกันมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันมีคนจีนเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยจำนวนมากขึ้นทุกปี ชื่นชอบเมืองไทยด้วยลักษณะนิสัยคนไทยที่เป็นสยามเมืองยิ้ม มีอาหารที่อร่อย และค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ตนในฐานะตัวแทนจากศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนก็มีหน้าที่เผยแพร่วัฒธรรมจีนให้กับคนไทยให้ได้รู้จักด้วย"
"สำหรับการร่วมมือกับ ล้ง 1919 ในครั้งนี้ เป็นโครงการที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์มากมายและมีความร่วมสมัย ผู้ที่ได้มาชมจะรู้สึกประทับใจ โดยเฉพาะชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนจะรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง โครงการล้งเปิดได้ไม่นานแต่สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยงที่สำคัญของเมืองไทยได้ในขณะนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี โดยที่ผ่านมาศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีนได้ให้ความร่วมมือและสนับสนุนมาตั้งแต่เริ่มเปิดโครงการล้ง และยินดีที่จะให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง"มร.เฉินโป๋เชียน กล่าว
ด้าน คุณวิรชา ดาวฉาย นักวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ซิโน พอร์ท จำกัด กล่าวว่า "การร่วมมือในครั้งนี้ มีทางศูนย์บริการวิชาการฯ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ โดยได้รวบรวมข้อมูลภูมิปัญญาจีนเบื้องต้น ในรูปแบบ e-book ที่นอกจากสามารถใช้สำหรับเป็นข้อมูลการจัดแข่งขันตอบปัญหาแล้ว e-book เล่มนี้ยังเป็นองค์ความรู้สำหรับประชาชนทั่วไปที่สนใจด้วย โดยทุกคนสามารถเข้าไปอ่านได้ทาง wwww.lhongwisdom.com"
บรรยากาศภายในงานแถลงข่าว มีเหล่าคนดัง อาทิ รุจิราภรณ์ หวั่งหลี, ลิลลี่ แม็คกร๊าธ, เอื้ออารี ตรีโสภา, ชนันตร์ ลาภอนันต์รุ่ง, กฤดิลักษณ์ โชติเสถียร, อัจจิมา ปลื้มกิตติ ฯลฯ ที่สนใจในศิลปวัฒนธรรมไทย - จีน มาร่วมงานแถลงข่าว โชว์ลายมือการเขียนพู่กันจีน รวมถึงชื่นชมโทรฟี่ที่ออกแบบพิเศษสำหรับ LHONG Awards อีกด้วย
สำหรับนักเรียน-นักศึกษาที่สนใจยังสามารถสมัครเข้าแข่งขัน LHONG Wisdom Competition เพื่อชิงรางวัลทัศนศึกษา ณ ประเทศจีน ทางเว็บไซต์ www.lhongwisdom.com หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทางเฟซบุ๊ค แฟนเพจ LHONG 1919