กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,292.60-1,297.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,790 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 24/05/61)
แนวโน้มวันที่ 25 พฤษภาคม 2561
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงแนวโน้มการเก็บภาษีต่อการนำเข้ารถยนต์ใหม่ อาจนำไปสู่การเปิดฉากสงครามการค้าขึ้นอีกครั้ง ทั้งนี้ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับคำสั่งให้ พิจารณาแผนการตรวจสอบเพื่อประเมินว่า รถยนต์และรถบรรทุกที่นำเข้าจากต่างประเทศนั้นเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติหรือไม่ ตามกฎหมายมาตรา 232 ซึ่งก่อนหน้านี้ สหรัฐก็ได้ใช้การตรวจสอบตามมาตรา 232 ในการกำหนดภาษีอะลูมิเนียมและเหล็กกล้าเช่นกัน โดยความเคลื่อนไหวล่าสุดของ ปธน.ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ในอัตราสูงถึง 25% โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อกดดันญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ซึ่งส่งออกรถยนต์จำนวนมากมายังสหรัฐ นอกจากนี้การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนกำลังถูกจับตาอีกครั้ง เมื่อความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาเพิ่มสูงขึ้น ท่ามกลางการเจรจาที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หลังจากปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณทิศทางใหม่ในการเจรจาการค้าของสหรัฐกับจีน โดยระบุว่าข้อตกลงใดๆก็ตามจำเป็นต้องมี "โครงสร้างที่แตกต่าง" ทางด้าน นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนไม่ได้ให้คำมั่นตัดลดยอดเกินดุลการค้าของประเทศกับสหรัฐด้วยตัวเลขที่แน่นอน และหวังว่าสหรัฐจะดำเนินการมาตรการตามที่ให้สัญญาเอาไว้ระหว่างการเจรจาการค้าเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นกระตุ้นแรงซื้อทองคำ ขณะที่การประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือที่จะมีขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย. ณ ประเทศสิงคโปร์ตามกำหนดการเดิมอาจเป็นไปได้ยาก หลังจาก นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า สหรัฐเตรียมจะยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์กับเกาหลีเหนือ หากการประชุมที่กำลังจะมาถึงระหว่าง ปธน.ทรัมป์ และนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือมุ่งไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามสถานการณ์ดังกล่าวยังคงมีความผันผวน แนะนำนักลงทุนรอจังหวะซื้อเมื่อราคาทองคำไหลลงสู่แนวรับสำคัญ และนักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,285-1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรก ซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,299-1,306 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,280 (19,400บาท) 1,271 (19,250บาท) 1,263 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,700บาท) 1,306 (19,800บาท) 1,315 (19,950บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,280 (19,530บาท) 1,271 (19,400บาท) 1,263 (19,270บาท)
แนวต้าน 1,299 (19,830บาท) 1,306 (19,940บาท) 1,315 (20,070บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999