กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ซีพีเอฟ
คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับมอบโครงการ "ปรับปรุงฟาร์มสุกรพันธุ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่" เพื่อประโยชน์ในการศึกษาและวิจัย จากบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ด้วยการปรับปรุงโรงเรือนแม่พันธุ์สุกรอุ้มท้องเป็นคอกขังรวมตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) พร้อมสร้างโรงเรือนสุกรขุนหลังใหม่ และปรับปรุงระบบฟาร์มให้ได้มาตรฐานของกรมปศุสัตว์ เพื่อให้พร้อมต่อการเรียนการสอนในยุคปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐา โพธาภรณ์ คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับซีพีเอฟ ดำเนินโครงการความร่วมมือทางวิชาการด้านสุกร มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ล่าสุดผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทได้ทำการสำรวจในส่วนของฟาร์มเลี้ยงสุกรที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โครงการแม่เหียะ พบว่าโรงเรือนในโครงการดังกล่าวมีความชำรุดเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นแหล่งเรียนรู้และเป็นสถานที่สำหรับการเรียนการสอน และฝึกงานแก่นักศึกษาของคณะ มาตั้งแต่ปี 2510 หรือนานกว่า 51 ปีแล้ว ทำให้โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมีสภาพทรุดโทรมตามอายุการใช้งาน ผู้บริหารของคณะเกษตรศาสตร์จึงเสนอต่อซีพีเอฟเรื่องการปรับปรุงฟาร์มสุกรพันธุ์ให้ที่มีความทันสมัยและได้มาตรฐาน ทั้งโรงเรือน วัสดุอุปกรณ์ และระบบการเลี้ยง เพื่อประโยชน์ในการศึกษาและวิจัยของนักศึกษาภาควิชาสัตวศาสตร์และสัตว์น้ำ คณะเกษตรศาสตร์
"ขอขอบพระคุณซีพีเอฟที่สนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงฟาร์มรวมทั้งอุปกรณ์คอกคลอดสุกร ซึ่งจะก่อประโยชน์แก่นักศึกษา คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ที่สามารถเข้าศึกษาเรียนรู้การปฏิบัติงานจริง เพื่อสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งให้กับนักศึกษาให้พร้อมกับการทำงานในอนาคตได้อย่างมั่นใจ และจะผลักดันฟาร์มแห่งนี้เป็นต้นแบบด้านการเรียนการสอนและบริการวิชาการของคณะฯต่อไป" รศ.ดร.ณัฐา กล่าว
ด้าน นายสมควร ชูวรรธนะปกรณ์ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สายธุรกิจสุกร ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟดำเนินโครงการความร่วมมือเพื่อการศึกษาและวิจัยกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในหลากหลายโครงการ และการสนับสนุนการปรับปรุงฟาร์มสุกรพันธุ์ในครั้งนี้ ซีพีเอฟใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 7,306,175 บาท ในการปรับปรุงโรงเรือนแม่พันธุ์สุกรอุ้มท้องเป็นคอกขังรวมตามหลัก Animal Welfare พร้อมปรับปรุงโรงเรือนสุกรขุน ปรับปรุงสำนักงานฟาร์ม และขยายความสามารถในการผลิตด้วยการสร้างโรงเรือนสุกรขุนหลังใหม่เพิ่มอีก 1 หลัง ตลอดจนติดตั้งระบบการให้อาหารอัตโนมัติ ระบบไบโอแก๊ส และระบบฟอกอากาศท้ายโรงเรือน เพื่อให้ฟาร์มมีมาตรฐานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ บริษัท เค.เอส.พี. อุปกรณ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพีเอฟ สนับสนุนอุปกรณ์คอกคลอดสุกร 32 คอก ด้วยงบประมาณ 950,400 บาท เพื่อร่วมกันพัฒนาสถานที่สำหรับเรียนรู้และฝึกฝนการใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอยู่ภายในมหาวิทยาลัยให้กับนักศึกษา โดยรูปแบบของโรงเรือนเป็นรูปแบบเดียวกับฟาร์มของซีพีเอฟ ที่ผู้เข้าชมสามารถชมกระบวนการเลี้ยงในโรงเรือนผ่านห้องกระจกโดยไม่ต้องเข้าไปภายใน จุดนี้สามารถรองรับการเข้าเยี่ยมชมของบุคคลภายนอก ซึ่งจะทำให้ฟาร์มแห่งนี้สามารถพัฒนาสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้ต่อไป
"โครงการนี้นับเป็นความร่วมมือทางวิชาการและกิจการเพื่อสังคมโดยไม่มีพันธะสัญญาด้านการค้าใดๆ ซีพีเอฟหวังเป็นอย่างยิ่งว่าฟาร์มสุกรพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงให้พร้อมในทุกๆด้านนี้ จะกลายเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงปฏิบัติและสถานที่ฝึกงานของนักศึกษา อันจะเป็นการปูพื้นฐานอาชีพในอนาคต และเป็นประโยชน์ต่อคณะเกษตรศาสตร์สำหรับใช้ในกระบวนการจัดการเรียนการสอน ที่สอดคล้องกับยุคสมัยและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง" นายสมควร กล่าว