กรุงเทพฯ--30 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองปัจจัยต่างประเทศกดหุ้นไทย แนะจับตาปัจจัยต่างประเทศทั้งการเมืองอิตาลี-สเปน สงครามการค้าสหรัฐ-ประเทศคู่ค้า และการประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐและผู้นำเกาหลี ในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนปัจจัยบวกในประเทศคาดแบงก์ชาติปรับเพิ่มประมาณการ GDP ปี 61 หลัง GDP ไตรมาส 1/61 โต 4.8% ดีเกินคาด และความคืบหน้าของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในเขตพื้นที่อีอีซี หนุนดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,715-1,750 จุด แนะลงทุนหุ้น NYT ได้ประโยชน์จากตัวเลขยอดส่งออกรถยนต์โต และหุ้นที่ Laggard ดัชนี ด้านแนวโน้มราคาทองคำมีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น จากการเก็งกำไรการประชุมของสหรัฐ-เกาหลี ให้กรอบซื้อขายทองที่ 1,285-1,320 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์มีแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ได้แก่ ความกังวลปัจจัยการเมืองของยูโรโซนได้แก่รัฐบาลอิตาลีและสเปนที่ขาดเสถียรภาพ สงครามการค้าสหรัฐกับประเทศคู่ค้า ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากความกังวลต่อการที่ซาอุดิอาระเบียและรัสเซียกำลังพิจารณาปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันกดดันราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน รวมทั้ง fund flow ผันผวนต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนย้อนหลังนักลงทุนต่างชาติ่ยังคงขายสุทธิเพิ่มขึ้น
ขณะที่ปัจจัยบวกในสัปดาห์นี้ดูมีน้ำหนักไม่มากนัก จากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตดี ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการ GDP หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสแรกเติบโตสูงถึง 4.8% ความสนใจลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในภูมิภาคเอเชีย ยุโรป สหรัฐ ในเขตพื้นที่อีอีซี โครงการ PPP เร่งด่วน 3 โครงการมูลค่าลงทุนรวม 4.47 แสนลบ. การเดินหน้าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2562 ยังมีแนวโน้มเป็นงบประมาณขาดดุลต่อเนื่องจากปีก่อนหน้าเพื่อสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเร่งประมูลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานต่อเนื่องในปีนี้
อย่างไรก็ตามยังคงมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจดังนี้ วันที่ 31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และวันที่ 1 มิ.ย. ครบกำหนดที่สหรัฐขยายเวลาการยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็ก-อลูมิเนียมให้สหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก ส่วนสหรัฐ จีน และอียู มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตในเดือนพ.ค. นอกจากนี้สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนพ.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในทิศทางอ่อนตัวจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก คาดดัชนี SET ผันผวนในกรอบ 1,715-1,750 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ หุ้น NYT ได้ประโยชน์จากตัวเลขยอดส่งออกรถยนต์โต 5.29% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 หุ้นที่ Laggard ดัชนี ได้แก่ CPF, CK, STEC, UNIQ, BJC และหุ้น MAI ที่คาดว่ากำไรปี 61 เติบโตได้แก่ JUBILE, ATP30, AGE, XO, SSP, TPCH
ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ส่งผลให้ทองคำได้รับความสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยล่าสุดมีกระแสข่าวว่าเกาหลีเหนือและสหรัฐอาจกลับมาประชุมกันตามเดิมแต่ยังไม่มีความแน่ชัด อย่างไรก็ตามดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ จากตัวเลขเศรษฐกิจภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐขยายตัวสูงสุดในรอบ 44 เดือนและ 3 เดือนตามลำดับเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ คาดกรอบราคาทองคำสัปดาห์นี้ที่ 1,285-1,320 ดอลลาร์ โดยเน้นซื้อเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่า 1,300 ดอลลาร์ และให้ติดตามการประชุมสหรัฐและเกาหลีเหนือหากล่าช้าหรือยกเลิกการประชุมจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ