กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 01 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,297.60-1,300.52 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,750 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,800 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,870 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.35 น. ของวันที่ 01/06/61)
แนวโน้มวันที่ 04 มิถุนายน 2561
สหรัฐตัดสินใจประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมต่อแคนาดา, เม็กซิโก และสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่การเจรจาระหว่างสหรัฐและสหภาพยุโรป (EU) ประสบความล้มเหลว การเก็บภาษีนำเข้าโลหะจากพันธมิตรสำคัญ กระตุ้นความเสี่ยงสงครามการค้าโลกอีกครั้ง ซึ่งทำให้นักลงทุนเลือกที่จะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ แคนาดา, เม็กซิโก และ EU ตอบโต้ในทันทีด้วยการประกาศเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าของสหรัฐ ซึ่ง EU ประกาศรายชื่อสินค้าสหรัฐหลายร้อยรายการ นับตั้งแต่เนยถั่วไปจนถึงมอเตอร์ไซค์ ด้านเม็กซิโกก็ได้ประกาศว่าจะเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งรวมถึงเนื้อสุกร, แอปเปิล, องุ่น, ชีส และเหล็กแผ่น ส่วนแคนาดายังไม่ได้ออกมาตรการตอบโต้สหรัฐในทันที แต่รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดาเคยระบุก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาจะทำการตอบโต้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม นอกจากนี้ ติดตามคณะบริหารสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเปิดเผยการสอบสวนทางการค้าว่า การนำเข้ายานยนต์สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐหรือไม่ ซึ่งการที่สหรัฐเตือนว่าอาจกำหนดภาษีนำเข้ายานยนต์ต่างชาติโดยกำหนดภาษีมากถึง 25% ต่อยานยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศ ทั้งนี้ หากการนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมและความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยหรือไม่ อาจนำไปสู่การกำหนดภาษีครั้งใหม่ของสหรัฐที่คล้ายกับการกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กกล้าและอะลูมิเนียมในเดือนมี.ค. รวมทั้งนักลงทุนยังจับตามองผลการเจรจาการค้าเมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐและนายกรัฐมนตรี ชินโซะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นพบกันในวันที่ 7 มิ.ย. ณ ทำเนียบขาว เบื้องต้นวายแอลจีเชื่อว่าการที่ราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,295-1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้นั้นแสดงให้เห็นกำลังซื้อพยุงราคาไว้ ซึ่งหากราคาทองคำไม่หลุดโซนนี้ วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นต่อไปได้
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี แนะนำให้เก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาทองคำยังมีแนวโน้มการเคลื่อนไหวในลักษณะการแกว่งตัวในกรอบ ซึ่งราคาทองคำยังมีการแกว่งตัวและยังมีความผันผวน ซึ่งหากราคาทองคำลงมาทดสอบบริเวณแนวรับ 1,295-1,292 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง และยังยืนเหนือได้จะ ดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน โดยประเมินแนวต้านไว้ที่ 1,307 หรือ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากขึ้นไปทดสอบแนวต้านแล้วไม่สามารถผ่านไปได้ก็จะเห็นการย่อตัวของราคาลง โดยประเมินแนวรับที่ 1,292 แต่หากยืนไม่ได้จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การตั้งจุดตัดขาดทุนหรือจุดทำกำไรต้องชัดเจน หากไม่อยากรับความเสี่ยงมากนักให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,292 (19,550บาท) 1,280 (19,350บาท) 1,271 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,800บาท) 1,315 (19,900บาท) 1,325 (20,050บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,292 (19,680บาท) 1,280 (19,500บาท) 1,271 (19,360บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,910บาท) 1,315 (20,030บาท) 1,325 (20,180บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999