กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--กบข.
กบข.เผยการบริหารองค์กรยึดหลัก CSR ที่ให้ความสำคัญกับธรรมาภิบาลการลงทุน — รักษาสิ่งแวดล้อม - รับผิดชอบสังคม เพื่อการเติบโตยั่งยืนในอนาคต
นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในฐานะที่เป็นนักลงสถาบันขนาดใหญ่ ซึ่งบริหารเงินออมให้กับข้าราชการสมาชิกกว่า 1 ล้านคน มีเงินภายใต้การบริหารกว่า 3 แสนล้านบาทว่า กบข.ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานที่มีความรับผิดชอบต่อธุรกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นองค์ประกอบ 3 ส่วนที่ต้องดินเคียงคู่กันไป เพราะหากปัจจัยใดหนึ่งล้มลง ก็จะกระทบส่วนที่เหลือ และเรื่อง Corporate Social Responsibility (CSR) เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินงานสำหรับทุกภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม การทำ CSR ของ กบข. แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ ในฐานะที่เป็นองค์กรธุรกิจและในฐานะเป็นนักลงทุนที่มีความรับผิดชอบ โดยที่ในส่วนแรกในฐานะเป็นองค์กรธุรกิจ กบข. ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อนำความคิดและวิธีการด้านCSR มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เป็นต้นแบบภายในองค์กร โดยการวิเคราะห์ (GAP Analysis) และการวิเคราะห์กระบวนการ CSR ขององค์กรจากปัจจัย 7 ด้านหลัก ได้แก่ (1) ธรรมาภิบาลขององค์กร (2) สิ่งแวดล้อม (3) สิทธิมนุษยชน (4) การปฏิบัติต่อพนักงาน (5) การปฏิบัติธุรกิจต่อคู่ค้า (6) การดูแลสมาชิก และ (7) การมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน พบว่า กบข. ทำได้ดีในหลายเรื่อง และยังสามารถทำได้เพิ่มเติมอีกในเรื่องสิ่งแวดล้อมและการมีส่วนร่วมกับสังคม จากที่ กบข. ได้ทำอยู่แล้วในปัจจุบัน
สำหรับ ในส่วนที่สอง ในฐานะนักลงทุนที่มีความรับผิดชอบ กบข. ได้ประเมินร่วมกับหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ UNEP กองทุนบำนาญในต่างประเทศและนักลงทุนสถาบันชั้นนำ รวมทั้งสิ้น 106 สถาบันการลงทุน เป็นการประเมินเกี่ยวกับเรื่อง (1) การนำปัจจัย ESG เข้ามาวิเคราะห์ตัดสินใจลงทุน (2) การใช้ ESG ดูแลสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น (3) การผลักดันให้บริษัทที่ กบข. ลงทุน เปิดเผยข้อมูลด้าน ESG และ (4) การผลักดัน ESG ให้เกิดการยอมรับในอุตสาหกรรมการลงทุน และเรื่องอื่นๆ
ทั้งนี้ กบข. เชื่อว่าการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมีส่วนสร้างความสำเร็จและสร้างมูลค่าเพิ่มต่อธุรกิจ และรักษาความสามารถในการแข่งขันให้มีความมั่นคงเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้