กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--การท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย
ฯพณฯ ดาโต๊ะ โมฮัมมัด ซัลเลห์ ฮัดดิน ฮัสซัน รองเลขาธิการด้านนโยบาย กระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรมาเลเซีย และ ฯพณฯ ดาโต๊ะ โจจี้ ซามูเอ็ล เอ็ม ซี ซามูเอ็ล เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
ร่วมเป็นประธานเปิดงาน DURIAN FIESTA 2018
สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทยร่วมกับกระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรของมาเลเซียโปรโมท "มูซังคิง" ทุเรียนอันดับหนึ่งของประเทศมาเลเซียในงาน Durian Fiesta 2018 โดยมี ฯพณฯ ดาโต๊ะ โจจี้ ซามูเอ็ล เอ็ม ซี ซามูเอ็ล เอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย และ ฯพณฯ ดาโต๊ะ โมฮัมมัด ซัลเลห์ ฮัดดิน ฮัสซัน รองเลขาธิการด้านนโยบาย กระทรวงเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรมาเลเซีย ร่วมเป็นประธานเปิดงานเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ณ ห้องนิทรรศการ สถานทูตมาเลเซีย
การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการส่งเสริมการขายทุเรียนของประเทศมาเลเซียที่จัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ภายในงาน นอกจากมีการเลี้ยงอาหารค่ำด้วยอาหารมาเลเซียต้นตำรับและการแจกจ่ายทุเรียนมูซังคิงให้ผู้ร่วมงานได้ชิมแล้ว ยังมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารจากประเทศมาเลเซียอีก 6 แบรนด์มานำเสนอผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น เค้กจากซาราวัค ช็อคโกแลต เครื่องแกงซัมบาล และขนมกรุบกรอบ
ทุเรียนสายพันธุ์มูซังคิงส์ (Musang King) ของมาเลเซีย มีขนาดผลไม่ใหญ่มาก น้ำหนักผลเฉลี่ย 1.5-2.5 กิโลกรัม เนื้อเนียน สีแหลืองเข้ม รสชาติหวานมัน และมีกลิ่นเฉพาะตัว มีแหล่งเพาะปลูกมากที่สุดในเกาะบอเนียว และในรัฐเคดาร์พื้นที่ติดกับ อ.สะเดา จ.สงขลา อีกส่วนหนึ่งอยู่แถบชายแดนไทย-มาแลเซีย ติดกับ อ.เบตง จ.ยะลาของไทยด้วย
ทุเรียนมูซังคิงส์กลายเป็นทุเรียนที่ราคาแพงที่สุดในตลาด ราคาต่อกิโลกรัมสามารถสูงถึงหลายพันบาท ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและความต้องการของตลาด ทุเรียนสายพันธุ์นี้ได้รับความนิยมมากในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน โดยเฉพาะประเทศจีนถือเป็นตลาดใหญ่และมีความต้องการสูงมาก รัฐบาลมาเลเซียได้สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกทุเรียนมากขึ้นเพื่อเพิ่มการผลิตต่อปีถึง 303,000 ตัน
องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเลเซียหรือการท่องเที่ยวมาเลเซียประจำประเทศไทย เป็นหน่วยงานภายใต้การกำกับการของกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมประเทศมาเลเซีย การท่องเที่ยวมาเลเซียมีเป้าหมายหลักในการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ประเทศมาเลเซียในทุกระดับ การท่องเที่ยวมาเลเซียได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดนับแต่การก่อตั้งและขึ้นมาเป็นอีกหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับระหว่างประเทศ ในปี 2559 มาเลเซียต้อนรับนักท่องเที่ยว 26.8 ล้านคนคิดเป็นรายได้ 82.1 พันล้านริงกิต ทำให้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมทำเงินให้กับประเทศใหญ่เป็นลำดับที่ 2 และยังถือเป็นลำดับที่ 6 ของรายได้มวลรวมประชาชาติ