กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--คาร์ลบายร์?แอนด์ แอสโซซิเอทส์
ไช่เหนี่ยว เน็ตเวิร์ค หรือ "ไช่เหนี่ยว" บริษัทโลจิสติกส์ ภายใต้อาลีบาบา กรุ๊ป เปิดตัวเทคโนโลยีโลจิสติกส์ยุคใหม่ ในการประชุมสุดยอด โกลบอล สมาร์ท โลจิสติกส์ ซัมมิท (Global Smart Logistics Summit) พร้อมประกาศแผนพัฒนาเครือข่ายโลจิสติกส์ด้วยโครงการเปิดโลจิสติกส์ฮับ 5 แห่งทั่วโลก สำหรับเทคโนโลยีและโครงการที่ไช่เหนี่ยวเปิดตัวในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นในการสร้างความสะดวกให้กับการค้าในประเทศจีนและทั่วโลก และพัฒนาบริการสำหรับผู้ค้าและผู้บริโภคด้วยประสบการณ์ที่ผสานออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ
เปิดตัวโซลูชั่น "ฟิวเจอร์พาร์ค"
ไช่เหนี่ยวได้จัดแสดงโซลูชั่น "ฟิวเจอร์พาร์ค" สำหรับศูนย์กลางโลจิสติกส์ล้ำยุค ซึ่งประกอบด้วยโกดัง สำนักงาน และร้านค้าอัจฉริยะ ฟิวเจอร์พาร์ค (https://bit.ly/2JjUWVT) ตั้งอยู่ในเมืองอู๋ชี ใกล้กับนครเซี่ยงไฮ้ทางด้านตะวันออกของประเทศจีน โดยได้นำเทคโนโลยีชั้นนำ ได้แก่ เอไอ (Artificial Intelligence) เอดจ์ คอมพิวติ้ง (edge computing) และลองเรนจ์ (LoRa)-IoT มาใช้กับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในศูนย์ฯ ด้วยระบบการจัดการอัจฉริยะสเกลใหญ่เหล่านี้จะทำให้ศูนย์กลางแห่งนี้ถูกพัฒนาเป็นฮับอัจฉริยะ
คลังสินค้าอัจฉริยะ (https://bit.ly/2srlme0) ภายในฟิวเจอร์พาร์ค ใช้ระบบสายพานอัตโนมัติ พร้อมแขนหุ่นยนต์ รวมถึงหุ่นยนต์ AGV (Automatic Guided Vehicles) กว่า 500 ตัว สำหรับการหยิบและแพ็คสินค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คาดว่าการใช้ระบบอัตโนมัตินี้จะช่วยลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานถึงได้ถึง 50,000 ขั้นตอนต่อคนต่อวัน นอกจากนี้ ภายในคลังสินค้ายังใช้เซนเซอร์อินฟราเรดที่สามารถระบุความสูงของกองสินค้าคงคลัง และใช้กล้องในการคำนวณความสามารถในการบรรจุของคลังแบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วเพื่อการจัดการสินค้าคงคลังที่ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ไช่เหนี่ยวยังจัดแสดงเทคโนโลยีอื่นๆ สำหรับอนาคต ที่ช่วยแก้จุดอ่อนของภาคโลจิสติกส์ ได้แก่ การจัดส่งในช่วงสุดท้าย (last-mile delivery) และการลดปริมาณขยะ โดยไช่เหนี่ยว บ็อกซ์ สามารถรับแพ็คเกจผ่านการจดจำใบหน้าของผู้ส่งสินค้าในขณะที่ไม่มีใครอยู่ที่บ้าน ทั้งอุณหภูมิของกล่องอัจฉริยะยังสามารถปรับได้ผ่านแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือ ในกรณีที่มีผลิตภัณฑ์อาหารที่ต้องเก็บรักษาในความร้อนหรือเย็น หุ่นยนต์ G Plus ของ ET Lab โดยไช่เหนี่ยว (https://bit.ly/2LbHnFt) ที่เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้ มีระบบนำทางแบบมัลติเซนเซอร์สำหรับการจัดส่งในช่วงสุดท้าย นอกจากนี้ ET Lab จะนำ G Plus เข้าสู่กระบวนการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายภายในปีนี้อีกด้วย
การขยายเครือข่ายโลจิสติกส์ในระดับโลก
ไช่เหนี่ยว ยังได้ประกาศแผนการเปิดฮับระดับโลก จำนวน 5 แห่ง ในเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านโลจิสติกส์ โดยเมืองกลุ่มแรกที่ได้รับการพิจารณาจัดตั้งเป็นฮับระดับโลก ได้แก่ ดูไบ หางโจว กัวลาลัมเปอร์ ลีแยฌ (ประเทศเบลเยี่ยม) และ มอสโคว ซึ่งเมืองศูนย์กลางเหล่านี้จะจัดเตรียมโครงสร้างขั้นพื้นฐานด้าน โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการทำธุรกิจของผู้ประกอบการขนาดเล็กให้สามารถขายสินค้าได้ทั่วโลกและส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายฮับจะถูกกล่าวถึงในโอกาสต่อไป
ปัจจุบัน ไช่เหนี่ยว สามารถให้บริการส่งสินค้าไปยัง 30 เมืองในต่างประเทศ ครอบคลุม 6 ประเทศและภูมิภาค ได้ภายใน 5 วัน จุดประสงค์ของการจัดตั้งฮับระดับโลกเหล่านี้ ก็เพื่อขยายการให้บริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพไปยังกว่า 100 เมืองภายใน 3 ปี ซึ่งพันธกิจที่สำคัญที่สุดของไช่เหนี่ยวคือ การให้บริการส่งสินค้าไปยังทุกพื้นที่ในโลกภายใน 72 ชั่วโมง
การประชุมสุดยอด โกลบอล สมาร์ท โลจิสติกส์ ซัมมิท 2018 มีผู้เข้าร่วมงานจากแวดวงโลจิสติกส์ทั่วโลกมากกว่า 5,000 คน เพื่อร่วมรับฟังนวัตกรรมล่าสุด และมุมมองเกี่ยวกับเทรนด์ด้านโลจิสติกส์จากไช่เหนี่ยวและพันธมิตทางธุรกิจ และยังส่งเสริมให้เกิดการพูดถึงแนวคิด "โลจิสติกส์ยุคใหม่" ของอาลีบาบา เพื่ออธิบายโซลูชั่นซัพพลายเชนครบวงจรแบบใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ค้าสามารถจัดการสินค้าคงคลังของร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ให้สอดคล้องกับความต้องการด้านการจัดส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในยุคค้าปลีกแบบใหม่
เกี่ยวกับอาลีบาบา กรุ๊ป
พันธกิจของอาลีบาบา กรุ๊ป คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก เรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคตสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยจินตนาการถึงโลกที่ผู้คนต่างพบปะ ทำงาน และใช้ชีวิตอยู่บนแพลตฟอร์มของอาลีบาบา และมีความมุ่งหวังที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปถึง 102 ปี