กรุงเทพฯ--4 มิ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
มูลนิธิเอสซีจี สานต่อเจตนารมณ์ส่งเสริมการสร้างขวัญและกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่า โดยผสานพลังความร่วมมือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วยหน่วยงานภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จัดโครงการ "HANDS FOR HEROES" รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า จุดประกายให้ทุกภาคส่วนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่า และร่วมเป็นพลังสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่เตรียมจัดขึ้นตลอดทั้งปี โดยนำร่องกิจกรรมแรก "Paint for Heroes" เปิดโอกาสคนเมืองร่วมเพ้นต์เสื้อและประมูลเสื้อเพื่อสมทบทุนจัดซื้อชุดอุปกรณ์ลาดตระเวนให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า
นายขจรเดช แสงสุพรรณ กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า "มูลนิธิเอสซีจีได้มอบทุนการศึกษาแก่บุตรผู้พิทักษ์ป่ามาตั้งแต่ปี 2558 ภายใต้โครงการ Sharing the Dream Scholarship เพื่อตอบแทนความทุ่มเท เสียสละในการทำงานหนักและเสี่ยงอันตรายเพื่อปกป้องผืนป่าแทนคนไทยทุกคน และยังเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้มีกำลังใจปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ต้อง 'ห่วงหน้า พะวงหลัง'ซึ่งปัจจุบันมูลนิธิฯ ได้มอบทุนดังกล่าวไปแล้วกว่า 300 ทุน นอกเหนือจากการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรธิดาของผู้พิทักษ์ป่าแล้วในปี 2561 นี้ มูลนิธิฯ ได้ขยายแนวทางความช่วยเหลืออื่นๆ ไปสู่สังคม โดยร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ บจก.ทีวีบูรพา ริเริ่มโครงการ "HANDS FOR HEROES" เพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็น ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน รวมถึงพี่น้องสื่อมวลชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่า ซึ่งจะนำไปสู่การขยายความร่วมมือในการช่วยเหลือและส่งกำลังใจให้แก่ผู้พิทักษ์ป่าได้ในอนาคต โดยมีแผนจัด 3 กิจกรรม ในปีนี้ ได้แก่ Paint for Heroes, Run for Heroes และ Song from Heroes-Song for Heroes มูลนิธิฯ ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมเป็นอีกหนึ่งมือเพื่อส่งกำลังใจไปยังผู้พิทักษ์ป่าต่อไป"
สำหรับกิจกรรม "Pain for Heroes" ในครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมแรกจากโครงการ "HANDS FOR HEROES" ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมเป็นอีกหนึ่งมือ เพื่อส่งกำลังใจให้คนเฝ้าป่า ด้วยการซื้อเสื้อและร่วมกิจกรรมเพ้นต์เสื้อ ร่วมประมูลเสื้อจากฝีมือของศิลปิน ดารา และบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ อาทิ เป้ สีน้ำ รศ.ทินกร กาษรสุวรรณ ลำพู กันเสนาะ เหมี่ยว-ปวันรัตน์ นาคสุริยะ โน้ต-วัชรบูล ลี้สุวรรณ อ.ศศิน เฉลิมลาภ และหมอล็อต-น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน ฯลฯ เพื่อสมทบทุนจัดซื้อชุดอุปกรณ์ลาดตระเวนมอบให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า นอกจากนี้ ภายในงานยังมีนิทรรศการโครงการฯ และนิทรรศการของเครือข่ายเพื่อน ผู้พิทักษ์ป่าซึ่งเป็นเครือข่ายผู้ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมจากทั่วประเทศ รวมทั้งการแสดงดนตรีจากผู้พิทักษ์ป่า ที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวแห่งผืนป่าผ่านบทเพลงอีกด้วย
ด้าน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า "ในนามตัวแทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องขอขอบคุณมูลนิธิเอสซีจี ที่ตระหนักและเห็นความสำคัญ รวมทั้งคุณความดีของผู้พิทักษ์ป่า ผมรู้สึกยินดีที่ภาคเอกชน ตลอดจนทุกคนในสังคมมาช่วยกันเติมเต็ม ทำให้การดูแลช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่านั้นเป็นไปอย่างครอบคลุมขึ้น ทั้งในเรื่องของการให้ทุนการศึกษา และยุทธปัจจัยที่เป็นเครื่องมือ เครื่องไม้ อุปกรณ์ต่างๆ ในการลาดตระเวน ซึ่งจะช่วยเอื้ออำนวยและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของผู้พิทักษ์ป่าได้เป็นอย่างดี และความห่วงใยจากทุกท่านที่จะส่งไปยังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าครั้งนี้จะช่วยเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการทำหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป และผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทุกนายจะภาคภูมิใจ และพร้อมจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ต่อไปอย่างเต็มกำลังความสามารถ"
นายอุทัย ดวงเดือน พนักงานพิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงความภาคภูมิใจในการทำงานตลอด 22 ปี ว่า "ผมทำงานเป็นพนักงานพิทักษ์ป่าตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน หน้าที่ของผมคือการลาดตระเวนป่าเพื่อตรวจตราและติดตามผู้กระทำผิดที่มาลักลอบตัดไม้ ในหน่วยของเราจะมีการจัดชุดลาดตระเวนทีมละ 6-7 คน ช่วยกันดูแลเขตพื้นที่ที่กว้างขวาง ออกลาดตระเวนไม่ต่ำกว่า 15 วันต่อเดือน เข้าป่าครั้งละ 3-4 คืน ซึ่งพวกเราต้องเจอกับอันตรายทั้งจากผู้กระทำผิดและสัตว์ป่า เมื่อปี 2555 ทีมผมได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีหมีหลงเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน จึงเข้าไปดู เราต้อนหมีเข้าป่าและครั้งนั้นเองผมถูกหมีตะปบจนได้รับบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลเต็มใบหน้า นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ 1 เดือนเต็ม พอรู้สึกตัวว่าเรารอดแล้วนะ ก็อดคิดไม่ได้ว่าหากครั้งนี้เราไม่รอด ครอบครัวที่อยู่ข้างหลังจะเป็นยังไง ใครจะปกป้องดูแลพวกเขา จนกระทั่งวันหนึ่งผมได้รู้ว่ามูลนิธิเอสซีจีให้ทุนการศึกษาลูกของผม ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะทุนที่ได้รับนั้นสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าเทอม ค่าอาหาร และค่าอุปกรณ์การเรียนของลูกได้ ถามว่ายังห่วงลูกไหม ผมคงเลิกห่วงลูกไม่ได้ แต่ผมไม่กังวลเรื่องอนาคตการเรียนของลูกแล้ว และการที่มีคนเห็นคุณค่าของเราอย่างนี้ทำให้ผมมีกำลังใจทำงานมากขึ้น ในฐานะคนดูแลป่า ผมขอขอบคุณทุกกำลังใจและความช่วยเหลือที่ส่งมาถึงพวกเราผ่านโครงการ HANDS FOR HEROES ถือเป็นอีกหนึ่งพลังใจที่ผลักดันให้พวกผมมีพลังใจในการทำงานรักษาผืนป่าต่อไปโดยไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลังอีก"
นางสาวธิดารัตน์ ดวงเดือน บุตรสาวของนายอุทัย ซึ่งปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนร่มเกล้า จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับทุนการศึกษาจากโครงการ Sharing the Dream Scholarship โดยมูลนิธิเอสซีจี เมื่อปี 2560 เล่าว่า "หนูเห็นพ่อเข้าป่ามาตั้งแต่อนุบาล 2 พ่อไปนอนค้างคืนเฝ้าตามจับผู้ลักลอบกระทำผิด งานของพ่อเสี่ยงอันตรายมาก วันที่รู้ว่าพ่อโดนหมีตะปบบาดเจ็บสาหัส หนูกลัวมาก กลัวว่าพ่อจะไม่อยู่กับเราแล้ว พ่อรักษาตัวอยู่นานเป็นเดือน พอพ่อหายดีพ่อก็กลับเข้าป่าอีก เพราะพ่อรักป่าและไม่อยากให้ใครมารุกรานป่า ผลจากการทำหน้าที่อย่างทุ่มเทและเสียสละของพ่อช่วยให้หนูได้รับทุนฯ จากมูลนิธิเอสซีจี พี่ๆ ที่มูลนิธิฯ บอกเสมอว่าหนูได้รับทุนเพราะพ่อของหนูเป็นคนดี ความดีของพ่อทำให้หนูมีค่าเทอม หนูตั้งใจว่าจะเรียนต่อพยาบาล จะได้ช่วยดูแลพ่อ ดูแลคนเจ็บ ดูแลผู้พิทักษ์ป่าที่ทำหน้าที่เสียสละเหมือนพ่อของหนู และหนูอยากบอกทุกคนให้ช่วยกันอนุรักษ์ป่าไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นต่อไป"
ด้วยเล็งเห็นถึงความเสียสละของผู้พิทักษ์ป่าทุกคน มูลนิธิเอสซีจียังคงสานต่อเจตนารมณ์ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่บุตรผู้พิทักษ์ป่าอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าไม่มีการสร้างใดจะยั่งยืนไปกว่าการสร้างคน และไม่มีการตอบแทนใดจะทำให้ผู้พิทักษ์ป่ามั่นใจได้มากไปกว่าการให้หลักประกันทางการศึกษาแก่ลูกๆ ของพวกเขา หากแต่วันนี้มือทุกมือที่ยื่นมาผนึกกำลังกัน จะยิ่งช่วยเติมเต็มให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างครอบคลุมมากขึ้น เพื่อส่งความช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานไปยังผู้พิทักษ์ป่าให้พวกเขาไม่ให้ต้อง 'ห่วงหน้า พะวงหลัง' อีกต่อไป
สามารถติดตามข้อมูล ข่าวสาร รายละเอียดของกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ "HANDS FOR HEROES" ผ่านทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ "HANDS FOR HEROES" หรือ https://www.facebook.com/handsforheroes/