กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--มหาวิทยาลัยนเรศวร
ไก่ชนเหลืองหางขาว หรือที่เรียกติดปากกันว่า ไก่ชนพระนเรศวร ด้วยที่มาจากตำนานแห่งวีรกษัตริย์ไทย องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งปรากฏอยู่ในพงศาวดาร เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงพำนักอยู่ในกรุงหงสาวดี ประเทศพม่าตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงนำไก่เหลืองหางขาวไปจากเมืองพิษณุโลก (ไก่จากบ้านกร่าง เดิมเรียกบ้านหัวแท ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองพิษณุโลกไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๙ กิโลเมตร) เพื่อไปชนกับไก่ของพระมหาอุปราชา เป็นไก่ชนที่มีลักษณะพิเศษ มีความเฉลียวฉลาดในการต่อสู้ จึงชนชนะ จนได้รับสมญาว่า เหลืองหางขาว ไก่เจ้าเลี้ยง
มาวันนี้ไก่เหลืองหางขาวเผยโฉมในรูปแบบของความวิจิตร งดงาม ด้วยสีสันเส้นสายบนผ้าขาวม้าลวดลายใหม่ "เหลืองหางขาว" โดยกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมกับ กลุ่มวิสาหกิจผ้าทอไทยร่วมใจบ้านกร่างท่าวัว หรือ กลุ่มทอผ้าบ้านกร่าง ตำบลบ้านกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อันเป็นแหล่งกำเนิดของไก่ชนเหลืองหางขาว
"ด้วยภารกิจของกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในการอนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น เล็งเห็นว่า ผ้าขาวม้า เป็นผ้าทอที่คนไทยคุ้นเคย ผูกพันอยู่กับวิถีชีวิตมาเนิ่นนานทุกยุคสมัย สะท้อนวัฒนธรรม และยังสามารถพัฒนาเป็นสินค้าวัฒนธรรมเชิงพาณิชย์ได้ ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบว่า ในจังหวัดพิษณุโลกมีกลุ่มทอผ้าบ้านกร่างเพียงกลุ่มเดียวที่ยังคงทอผ้าขาวม้าออกสู่ท้องตลาด โดยมีผ้าขาวม้าเอกลักษณ์ของกลุ่มอยู่เพียงลวดลายเดียวที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ คือผ้าขาวม้าตาเล็ก สีส้มเหลือง จึงเห็นว่าควรส่งเสริมให้มีผ้าทอรูปแบบเพิ่มเติม เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค และเพิ่มประเภทของผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มฯ" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วศิน ปัญญาวุธตระกูล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยนเรศวร เล่าถึงที่มา
ช่วงระยะเวลาประมาณ ๒ เดือน ในการผสมผสานศาสตร์และศิลป์ จากเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ กับเอกลักษณ์เมืองพิษณุโลก บนรากเหง้าวัฒนธรรม เริ่มตั้งแต่การคิดค้น ออกแบบลวดลาย โดยนายวชริพงษ์ วงศ์ประสิทธิ์ นักวิชาการช่างศิลป์ กองส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม นำไปสู่กระบวนการถักทอฝีมือของสมาชิกกลุ่มทอผ้าบ้านกร่าง จึงก่อเกิดเป็นผ้าขาวม้าจากเส้นฝ้ายแท้ สีสันของไก่เหลืองหางขาว ได้แก่ น้ำตาล เหลือง ขาว และดำ
ผ้าขาวม้าต้นแบบ "เหลืองหางขาว" จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการผ้าขาวม้า ร่วมกับผ้าขาวม้าโบราณและผ้าขาวม้าจากการประยุกต์พัฒนาของกลุ่ม ตลาดจนผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าขาวม้า เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ซึ่งมีความสวยงาม สดใส และร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีผ้าขาวม้าของบุคคลสำคัญ เช่น นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พลเอก ดร.ศิริ ทิวะพันธุ์ ประธานสถาบันพัฒนาสี่แยกอินโดจีน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีรธร บุณยรัตพันธุ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนเรศวร ว่าที่ร้อยตรีธรรมนูญ ท้าวฮ้าย นายกองค์การส่วนบริหารตำบลบ้านกร่าง เป็นต้น
ผ้าขาวม้าลายเหลืองหางขาว รวมถึงผ้าขาวม้าลวดลาย รูปแบบต่าง ๆ ในนิทรรศการผ้าขาวม้า จำนวนกว่า ๑๐๐ ชิ้น นับเป็นนวัตกรรมด้านศิลปวัฒนธรรม ที่พร้อมเผยแพร่และเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ เป็นสินค้าทางวัฒนธรรม รอการมาชื่นชม ณ พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร ในวันและเวลาราชการ จนถึงวันที่ ๑๕ มิถุนายนศกนี้ โทร. ๐ ๕๕๙๖ ๑๒๐๗ และ ๐ ๕๕๙๖ ๑๑๔๘