กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สมิติเวช
สมิติเวช จับมือกับโรงพยาบาลซาโน่ " ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดด้วยการส่องกล่องจากประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2557 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจ วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคตับและทางเดินอาหารแบบครบวงจร พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ป่วย จากการร่วมมือกับโรงพยาบาลซาโนในปีที่ผ่านมาว่า มีคนไข้ทั้งชาวไทยและต่างชาติโดยเฉพาะคนไข้ชาวญี่ปุ่นในประเทศไทยเข้ามารับบริการมากขึ้น สมิติเวชสามารถตรวจ คัดกรองโรคและรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยที่ผ่านมาสมิติเวชมีการแลกเปลี่ยนแพทย์ไปเรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม ณ โรงพยาบาลซาโน ประเทศญี่ปุ่นเป็นประจำทุกปี
การมาประเทศไทยในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดพัฒนาของวงการแพทย์ไทย โดยทางโรงพยาบาลซาโน ได้เตรียมหลักสูตร
- เทคนิคการส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร (Narrow Band Image International Colorectal Endoscopic Classification- NICE) ซึ่งมีประโยชน์คือ สามารถตรวจพบได้ในระยะเริ่มแรก แม้ก้อนเนื้อยังไม่นูนขึ้นมา ทำให้สามารถวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้การรักษาแม่นยำขึ้นด้วย
- เทคนิคการส่องกล้องตัดติ่งเนื้อขนาดใหญ่จากสำไส้ใหญ่และกระเพาะอาหารผ่านกล้อง ESD (Endoscopic Submucosal Dissection) ซึ่งประโยชน์คือ สามารถผ่าตัดได้ทันที เมื่อพบติ่งเนื้อขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องเปิดหน้าท้อง ไร้แผล ลดภาวะแทรกซ้อนและฟื้นตัวเร็ว
นายแพทย์ยาซูชิ ซาโน่ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลซาโน ประเทศญี่ปุ่นและผู้อำนวยการสถาบันการผ่าตัดส่องกล้อง กล่าวว่า สมิติเวชมีชื่อเสียงมากและเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเอกชนที่ชาวญี่ปุ่นให้ความเชื่อถือและใช้บริการมาก จากความร่วมมือในปีที่ผ่านมา เราได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องเข้ามาเพื่อช่วยให้สถาบันโรคตับและทางเดินอาหารสมิติเวชสามารถให้บริการและช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งมีอาการหรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับตับและทางเดินอาหารได้มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นในประเทศไทย เราเชื่อว่าจะช่วยให้บริการที่ครบวงจรมากขึ้นและช่วยให้ความอุ่นใจกับผู้ป่วยชาวญี่ปุ่น ชาวไทยและชาวต่างประเทศได้อย่างเต็มที่"
ศูนย์โรคตับและทางเดินอาหารโรงพยาบาลสมิติเวชมีความเชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยและรักษาโรคที่เกี่ยวกับตับและระบบทางเดินอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อ โรคจากพิษสุรา ตัวแข็ง ภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ ตับอ่อนอักเสบ นิ่ว และอื่นๆ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ศูนย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 2 ของโรงพยาบาลสมิติเวชสุขุมวิท พร้อมให้บริการแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุด ทำให้สมิติเวชเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกประเทศญี่ปุ่นที่ให้บริการชาวญี่ปุ่นมากที่สุด
สมิติเวชได้เริ่มเปิดบริการศูนย์การแพทย์เฉพาะสำหรับชาวญี่ปุ่น เมื่อเดือนตุลาคม 2553 โดยมีล่ามภาษาญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้คอยให้บริการ และประมาณปลายปี 2561 จะเปิดโรงพยาบาลเพื่อดูแลชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะแบบครบวงจร ณ ซอยสุขุมวิท 49 อีกด้วย