กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2561 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร โดยมี นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นประธาน นายปราโมทย์ ยอดแก้ว ผู้อำนวยการสำนักจัดการปฏิรูปที่ดิน เป็นผู้กล่าวรายงาน นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับและนำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ศึกษา ดูงานติดตามความก้าวหน้าการดำเนินการจัดที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกิน ให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลในเขตปฏิรูปที่ดิน ณ พื้นที่แปลงหมายเลข 468 ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี
นายสุรจิตต์ อินทรชิต เลขาธิการ ส.ป.ก. เปิดเผยถึง การดำเนินการจัดที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายของรัฐบาล ในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดชลบุรี อยู่ในกรณีที่ 1 คือ ที่ดินที่ยังไม่เข้าสู่กระบวนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 500 ไร่ขึ้นไป โดยผลการดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมาย สามารถยึดคืนพื้นที่มาดำเนินการจัดที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินฯ จำนวน 2 แปลง ได้แก่
1. แปลงหมายเลข 378 ตำบลเขาซก อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 569.75 ไร่
2. แปลงหมายเลข 468 ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 535.27 ไร่
โดยลงพื้นที่ศึกษาดูงานในแปลงหมายเลข 468 ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี จัดสรรให้เกษตรกร จำนวน 42 ราย ๆ ละ 5+1 ไร่ (แบ่งเป็นแปลงเกษตรกรรม 5 ไร่ และแปลงที่อยู่อาศัย 1 ไร่) พื้นที่แปลงรวม 47 ไร่ 38 ตารางวา พื้นที่ส่วนกลาง 74 ไร่ 1 งาน 09 ตารางวา พื้นที่แหล่งน้ำ 125 ไร่ 76 ตารางวาและจัดตั้ง "สหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินอำเภอบ่อทอง (คทช.) จำกัด" ส.ป.ก.ชลบุรี ได้ดำเนินการจัดที่ดินแล้ว ในรูปแบบกลุ่มหรือสถาบันเกษตรกร มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคด้านต่าง ๆ มีความคืบหน้า ไปแล้วประมาณร้อยละ 67.6 โดยบูรณาการร่วมหน่วยงานในสังกัด ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานราชการอื่น ๆ อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น มีการปรับพื้นที่ ปูผังแบ่งแปลง ก่อสร้างถนนสายหลัก สายซอย การจัดหาแหล่งน้ำ การขุดบ่อน้ำบาดาลและการวางระบบท่อส่งน้ำเข้าไปยังพื้นที่ส่วนต่าง ๆ การขุดบ่อน้ำชั่วคราว ทั้งนี้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ได้สร้างบ้านให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินเสร็จแล้ว 15 หลัง คาดว่าการดำเนินงานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดจะแล้วเสร็จ ภายในไม่เกินสิ้นปีนี้ สำหรับการคัดเลือกเกษตรกรเข้าทำกินตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ดำเนินการ เสร็จเรียบร้อยแล้วทั้ง 42 ราย เกษตรกรได้รวมตัวกันจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินอำเภอบ่อทอง (คทช.) จำกัด เพื่อขอเช่าที่ดินจาก ส.ป.ก. ขณะนี้เกษตรกรบางส่วนได้เข้ามาอยู่อาศัย และเริ่มทำการเพาะปลูกบ้างแล้วเนื่องจากพื้นที่แปลงหมายเลข 468 สภาพดั้งเดิม ก่อนที่ ส.ป.ก. จะยึดคืนมา เป็นแปลงปลูกปาล์มน้ำมันทั้งหมด ปาล์มบางส่วนโตเต็มที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว ส.ป.ก. จึงได้โค่นต้นปาล์ม ปรับพื้นที่เฉพาะในส่วนที่เป็นบ้านพักอาศัยและพื้นที่สำหรับจัดสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ส่วนที่เป็นแปลงรวมและแปลงเกษตรกรรมที่จัดให้เกษตรกรทำกินรายละ 5 ไร่ ยังคงเป็นสวนปาล์ม อีกทั้ง เมื่อใช้ระบบแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุกหรือ Agri-Map มาพิจารณา ปรากฏว่าพื้นมีความเหมาะสมในการปลูกปาล์มน้ำมัน คณะอนุกรรมการพัฒนาชีพ จึงเห็นสมควรว่าให้คงปาล์มน้ำมันไว้เพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ในส่วนเกษตรกรที่ได้รับการจัดที่ดินก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้เพราะในระหว่างการพัฒนาสาธารณูปโภค เกษตรกรยังไม่สามารถทำการเพาะปลูก ไม่มีรายได้ การตัดปาล์มน้ำมันขาย จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรรายละประมาณ 4,000 – 7,000 บาทต่อเดือน รวมทั้งเกษตรกรที่ได้เข้ามาอยู่อาศัยบางส่วนได้ทำการเพาะปลูก มีรายได้จากการขายพืชผักอีกประมาณ วันละ 100-200 บาท ดังนั้นแนวทางการพัฒนาอาชีพในระยะแรก เกษตรกรจะมีรายได้หลักจากการขายปาล์มน้ำมัน รายได้อีกส่วนหนึ่งก็จะมาจากการทำเกษตรผสมผสานตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในแปลงที่ดิน และที่อยู่อาศัย 1 ไร่ สำหรับในระยะต่อไป ส.ป.ก. จะพยายามผลักดันให้เกษตรกรในพื้นที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือน ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวต่อไปว่า จุดเด่นของเกษตรกรในพื้นที่นี้คือ มีการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เกษตรกรบางส่วนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่ยังไม่มีบ้านโดยสร้างเป็นเพิงชั่วคราว และมีส่วนร่วมในการพัฒนาพื้นที่มาตลอด และมีแนวทางร่วมกันในการพัฒนาชุมชนอย่างชัดเจน แม้แหล่งน้ำสำหรับอุปโภคบริโภคยังสร้างไม่เสร็จ แต่เกษตรกรบางส่วนก็ได้ลงแรงขุดบ่อน้ำตื้นในพื้นที่ของตัวเอง จนสามารถทำการเพาะปลูก และมีรายได้จากการขายพืชผัก ส่วนราชการต่าง ๆ ก็ร่วมกันทำงานอย่างแข็งขัน การพัฒนาจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในปี 2561 การพัฒนาทุกด้านให้เสร็จเรียบร้อย
นางสาวศรัญญา วงศ์สุนทร เหรัญญิกสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินอำเภอบ่อทอง (คทช.) จำกัด เปิดเผยว่า ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับการ จัดที่ดินมีการพูดคุยและปรับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ร่วมกันมาโดยตลอด หลังจากรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรปฏิรูปที่ดินอำเภอบ่อทอง (คทช.) จำกัด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 สมาชิกจึงได้ตกลงร่วมกันว่าจะเก็บปาล์มน้ำมันในแปลงรวมและแปลงเกษตรกรรมไว้ และในระหว่างที่เกษตรกรยังไม่สามารถทำการเกษตรได้ ก็จะยังมีรายได้จากการขายปาล์มน้ำมัน โดยใช้วิธีบริหารแบบแปลงรวม รวบรวมผลผลิต และขายผ่านสหกรณ์ แล้วนำรายได้มาแบ่งเท่า ๆ กัน เพื่อให้เกษตรกรทุกคนสามารถอยู่ได้และร่วมใจกันพัฒนาพื้นที่ ในหนึ่งเดือนตัดปาล์มได้สองครั้ง ขายได้เป็นเงินประมาณ 200,000-300,000 บาท หักค่าจ้างในการตัดปาล์มตันละ 850 บาท หรือประมาณ 20,000-40,000 บาทต่อเดือน เหลือเป็นรายได้ 180,000-260,000 บาทต่อเดือน หลังจากหักค่าดำเนินงานของสหกรณ์แล้วจึงนำรายได้ทั้งหมดมาแบ่งเท่า ๆ กัน ในแต่ละเดือนเกษตรกรมีรายได้ จากการขายปาล์มน้ำมันประมาณ 4,000-7,000 บาท ทั้งนี้แนวทางการพัฒนาในอนาคต กลุ่มมีความเห็นร่วมกันว่าจะยังคงพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันไว้จนกว่าจะหมดอายุแล้วจึงค่อยพิจารณาว่าจะเพาะปลูกอะไรต่อไป ส่วนในแปลงที่อยู่อาศัยและพื้นที่ส่วนกลางจะทำเกษตรผสมผสาน โดยเน้นการทำพืชผักอินทรีย์ และในพื้นที่แต่ละแปลงจะพยายามตกแต่งให้สวยงามเพื่อผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อไป