กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--แสนสิริ
แสนสิริต่อยอดความสำเร็จ เปิดตัว "ดีคอนโด หาดใหญ่" ภายใต้แนวคิด "จังหวะชีวิตใหม่ๆ" จำนวน 461 ยูนิต มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท หลังโชว์ผลงานปิดการขาย – การโอน 100% ดีคอนโด กาญจนวนิช โครงการแรก ชูจุดขายโครงการใหม่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพใหม่ในเมืองหาดใหญ่ รองรับสถานีโมโนเรลหรือรถไฟฟ้ารางเดี่ยว สถานีขนส่งหาดใหญ่ (เซ็นทรัล) ที่เตรียมเปิดใช้ในปี 2565 ตามแผนพัฒนาเมืองหาดใหญ่ พร้อมจุดเด่นโครงการ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิดการออกแบบเพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience) เผยเป็นดีคอนโดโครงการแรกที่ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่เหมาะสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว และมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความสะดวกและปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น พร้อมปั้น Sales Gallery เป็น Co-Space แหล่งแฮงค์เอาท์ใหม่ของหาดใหญ่ ซึ่งจะประกอบด้วย สำนักงานขายและห้องตัวอย่าง, Co-Working Space และ Society Cafe เปิดจองอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 - 10 มิถุนายนนี้ พร้อมโปรโมชั่นและราคาสุดพิเศษ เริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท
นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ "ดีคอนโด หาดใหญ่" ภายใต้แนวคิด "จังหวะชีวิตใหม่ๆ" จำนวน 461 ยูนิต มูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า หลังจากประสบความสำเร็จกับ ดีคอนโด กาญจนวนิช คอนโดมิเนียมโครงการแรกของแสนสิริ ในหาดใหญ่ ที่ปิดการขาย- การโอน จำนวนทั้งสิ้น 1,268 ยูนิต ในปี 2559 ที่ผ่านมา โดยดีคอนโด หาดใหญ่ ชูจุดขายตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยภายใต้แนวคิด การออกแบบเพื่อเติมเต็มการอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ได้แก่ การเป็น ดีคอนโด โครงการแรกที่มีพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบใหม่รองรับทั้งกลุ่มครอบครัวและคนโสด และเป็นดีคอนโด ที่เชื่อมต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับการอยู่อาศัย ทั้งในห้องและพื้นที่ส่วนกลางเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยรองรับไลฟ์สไตล์ชาวหาดใหญ่
นอกจากนี้จุดเด่นของ ดีคอนโด หาดใหญ่ ยังตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวกสบาย ตั้งอยู่ในซอยไกลโศก (หลังโฮมโปร) บนถนนกาญจนวนิช ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล, แมคโคร, โฮมโปร, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และเดินทางเพียง 15 นาทีจากสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ รวมถึงในอนาคต ดีคอนโด หาดใหญ่จะมีรถไฟฟ้ารางเบา (โมโนเรล) สถานีขนส่งหาดใหญ่ (เซ็นทรัล) ผ่านด้านหน้าโครงการ ตามแผนพัฒนาเมืองหาดใหญ่ ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางให้แก่ลูกบ้านดีคอนโด หาดใหญ่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ดีคอนโด หาดใหญ่ จำนวน 461 ยูนิต เป็นอาคารที่พักอาศัยความสูง 7 ชั้น จำนวน 2 อาคาร บนพื้นที่ขนาด 6 ไร่ พร้อมการออกแบบที่ทันสมัยและเชื่อมโยงวิถีชีวิต วัฒนธรรมเข้ากับเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำยาวถึง 100 เมตรและสระว่ายน้ำเด็กพร้อมสไลด์เดอร์คลับเฮาส์สไตล์โมเดิรน์ขนาดใหญ่ 2 ชั้นที่ประกอบด้วย The Hub (Co-working Space), VR Game Room, ฟิตเนส, Educational Playground มากกว่าสนามเด็กเล่นที่แสนสิริได้พัฒนาร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเรียนรู้เด็ก, ล้อบบี้โครงการแบบ Double Volume เพิ่มความโปร่งและทันสมัย ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และ Free-Wifi ในพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมกันนี้ทางแสนสิริยังได้มีการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ในคอนเซปท์ "Function Extension" ที่ออกแบบมาสำหรับดีคอนโด หาดใหญ่โดยเฉพาะ และเป็น Special Edition เพื่อการใช้งานที่เต็ม พร้อมมั่นใจมากขึ้น กับระบบความปลอดภัยด้วย Digital Door Lock ทุกห้องพัก ระบบลิฟท์ล๊อคชั้น (Elevator Access Control System) และเพิ่มความสะดวกสบายในการอยู่อาศัยด้วยการควมคุมแอร์และเปิด-ปิดไฟภายในห้องพัก ผ่าน Smartphone Home Automation ซึ่งได้พัฒนาตามแนวคิดหลักของแสนสิริ คือ การเติมเต็มการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ หรือ Complete Your Living Experience โดยมี Siri Lifetech เป็นหนึ่งในมูลค่าเพิ่มที่แสนสิริมอบให้กับกลุ่มลูกค้า ทั้งนี้ แสนสิริเปิดให้จองโครงการดีคอนโด หาดใหญ่ อย่างเป็นทางการพร้อมกันในวันที่ 8 - 10 มิถุนายนนี้ ในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาทพร้อมโปรโมชั่นรับฟรี Amazon Alexa ระบบสั่งการด้วยเสียง Voice Command
นอกจากนี้ แสนสิริยังพร้อมเปิดตัว Sales Gallery เพื่อให้เป็นแหล่งแฮงค์เอาท์แห่งใหม่ของหาดใหญ่ ที่จะเป็นทั้งสำนักงานขายและห้องตัวอย่าง, Co-Working และ Society Cafe ที่จะเป็นจุดนัดพบของ Start-up นักเรียน นักศึกษา คนทำงาน ด้วยการจับมือร้านกาแฟชื่อดังของเมืองหาดใหญ่ The Habita เปิดตัวเป็นสาขาที่ 2 ที่ Sales Gallery ดีคอนโด หาดใหญ่ ในชื่อ The Habita Cafe @dcondo
ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอสังหาฯ พื้นที่หาดใหญ่ คาดว่าจะเร่งขยายตัวสูงขึ้นได้ในอีก 3-4 ปีข้างหน้า จากแผนการพัฒนาโครงการคมนาคมของรัฐ ทั้งโครงการขนส่งมวลชนด้วยระบบราง หรือ "รถไฟฟ้าโมโนเรล" เป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว ที่จะเข้ามาเชื่อมระหว่างใจกลางเมืองหาดใหญ่กับสนามบิน สายคลองหวะ - สถานีรถตู้ ระยะทาง 12.54 กิโลเมตร คาดว่าแล้วเสร็จปี 2565 โครงการทางเลี่ยงเมืองหาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยระบายการจราจรจากตัวเมืองออกไปยังพื้นที่รอบนอกได้ดีกว่าปัจจุบัน อีกทั้งยังช่วยลดความหนาแน่นของปริมาณรถที่ไม่ต้องการเข้าไปยังตัวเมืองหาดใหญ่ด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2564-2565 รวมถึงมอเตอร์เวย์สายหาดใหญ่-สะเดา ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เนื่องจากเป็นการเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซีย โดยจะเปิดประมูลปี 2561 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี รวมทั้งยังมีแผนการพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ที่คาดจะแล้วเสร็จปี 2573 เพื่อยกระดับให้ท่าอากาศยานหาดใหญ่เป็น "ประตูสู่ภาคใต้ของไทย" และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 10 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ ทั้งนี้ จากศักยภาพทางเศรษฐกิจของพื้นที่หาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม, ด้านอุตสาหกรรม, ด้านการคมนาคม และการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในช่วงต้นปี 2560 ที่ผ่านมา จะช่วยส่งเสริมให้หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดชายแดนประเทศมาเลเซีย มีการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ และประกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่มากยิ่งขึ้น กระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และการเติบโตของกลุ่มอุปสงค์ในตลาดอสังหาฯ จากกลุ่มแรงงาน และนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ อีกทั้งยังส่งผลให้ราคาที่ดินในพื้นที่หาดใหญ่ขยับตัวสูงขึ้นอีกด้วย
"ด้วยความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจากการเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่เน้นการพัฒนาโครงการคุณภาพภายใต้มาตรฐานของแสนสิริ บริษัทเชื่อมั่นว่า การพัฒนาโครงการดีคอนโด หาดใหญ่ เป็นโครงการที่ 2 ของแสนสิริในหาดใหญ่ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จะทำให้ลูกค้าที่หาดใหญ่ได้สัมผัสมาตรฐานในแบบ Best in Class ในโครงการที่อยู่อาศัยของแสนสิริในทุกระดับราคา ประกอบกับศักยภาพของเมืองหาดใหญ่ที่เติบโตขึ้นดังกล่าว แสนสิริจึงเชื่อมั่นว่าจะประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับโครงการแรกอย่างแน่นอน" นายสมเกียรติ กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับแสนสิริ
แสนสิริ ผู้นำแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ ที่สร้างรากฐานและเป็นต้นแบบมาตรฐานที่พักอาศัยมายาวนานถึง 34 ปี ความมุ่งมั่นในการรังสรรค์ทุกโครงการของแสนสิริ มาพร้อมดีไซน์นำสมัยเหนือคู่แข่ง ถึงพร้อมด้วยประโยชน์ใช้สอยครบครัน เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ครอบครองและคงไว้ซึ่งอุดมกาณ์ในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเสมอ
แสนสิริ ถือกำเนิดขึ้นจากรากฐานที่แข็งแรง นั่นคือ บริษัท แสนสำราญ ปฐมบทแห่งความสำเร็จของแสนสิริ ชื่อของ แสนสำราญ ถือกำเนิดขึ้นในปี พ.ศ. 2531 และได้สร้างกระแส ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ด้วยแนวคิดคอนโดมิเนียมตากอากาศระดับพรีเมียม นาม บ้านไข่มุก บนชายหาดหัวหิน ในทำเลสุดคลาสสิค โดดเด่นด้วยกระเบื้องโมเสกสีเหลืองมัสตาร์ด อันเป็นเอกสิทธิ์ของแสนสำราญโดยเฉพาะ การสร้างความแตกต่าง และล้ำหน้ากว่าใครในยุคนั้น ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งก้าวแรกที่ยังได้รับการกล่าวขาน และเป็นแบบอย่างของคุณภาพชีวิตที่ลงตัวนับตั้งแต่นั้น 8 ปี ถัดมา บริษัท แสนสำราญ จำกัด และ บริษัท สิริภิญโญ จำกัด สองยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์ ได้ผนึกกำลังและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งนับเป็นการประกาศความเป็นผู้นำอย่างภาคภูมิ ก่อนจะเปิดตัว บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในปีเดียวกัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยการดูแลและจัดการอย่างมืออาชีพ
ปัจจุบัน บริษัทได้ก้าวสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทยที่ได้รับการยอมรับในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ โฮมออฟฟิศ และคอนโดมิเนียมคุณภาพทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยจำนวนโครงการกว่ 334 โครงการ จำนวนที่อยู่อาศัยกว่า 93,464 ยูนิต ที่ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศกว่า 20 จังหวัด รวมทั้งการพัฒนาโครงการในตลาดต่างประเทศ 9 Elvaston Place ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ รวมถึงล่าสุดกับการก้าวล้ำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยแผนการลงทุนมูลค่า 80 ล้านดอลล่าร์ หรือ 2,800 ล้านบาทใน 6 ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลก ซึ่งเป็นการขยายฐานการลงทุนในธุรกิจอื่นครั้งสำคัญเพื่อสร้างพันธมิตรในประเภทธุรกิจอันหลากหลาย ซึ่งนับเป็นการสะท้อนวิสัยทัศน์ระดับโลกในการแสดงศักยภาพสู่สากล