กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--เอบีบี
EV Charger เป็นมากกว่าตัวชาร์จรถยนต์ เพราะสามารถตอบโจทย์ทุกมิติด้านโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ดีของคนไทยในอนาคต สินค้าตัวนี้เป็นอุปกรณ์เพาเวอร์อิเล็คทรอนิกส์สำหรับชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ลักษณะเป็นตู้และมีหัวจ่ายไฟฟ้า มี 3 ประเภท คือ Slow Charger สำหรับชาร์จไฟแบบปกติในที่อยู่อาศัย สามารถใช้ไฟจากปลั๊กไฟทั่วไป ด้วยแรงดัน 220v ชาร์จไฟ 3 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟประมาณ 8 ชั่วโมง ถัดมาเป็น Medium Charger ตู้ชาร์จไฟที่เหมาะกับสถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดของการโหลดไฟน้อย ชาร์จไฟ 20 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟประมาณ 1 ชั่วโมง สุดท้าย คือ Fast Charger ตู้ชาร์จไฟซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าแรงดัน 3 เฟส 380v แปลงไฟฟ้าให้เหมาะสมกับรถยนต์ไฟฟ้า ชาร์จไฟอยู่ที่ 50 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟไม่เกิน 30 นาที ส่วนใหญ่จะติดตั้งที่สถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle : EV) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานหลักจากแบตเตอรี่เพียงแหล่งเดียว จึงต้องมีการชาร์จไฟแบตเตอรี่ผ่านเครื่องชาร์จไฟ ( EV Charger ) ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าปกติจะมีปลั๊ก 2 ประเภท คือปลั๊ก AC Charge เพื่อชาร์จกับ Slow Charger และปลั๊ก DC Charge ไว้ใช้ชาร์จกับเครื่อง Medium Charger & Fast Charger โดยปกติการชาร์จแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ประมาณ 150 กิโลเมตร สำหรับตู้ชาร์จแบบ Medium Charger & Fast Charger มีลักษณะพิเศษที่หัวจ่ายจะต้องมีมาตรฐานที่จะ Plug in เข้ากับรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละชนิดได้ โดยทั่วโลกจะมีหัวมาตรฐานที่เชื่อมต่ออยู่ 3-4 มาตรฐาน แต่ที่นิยมจะเป็นของยุโรป (หัวแบบคอมโบ) และของญี่ปุ่น (ชาร์จเดโมะ) เพื่อรองรับรถค่ายยุโรปกับญี่ปุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์เครื่องชาร์จของเอบีบีตัวหนึ่งจะมีหัวจ่ายมาตรฐาน 2-3 หัว สามารถรองรับทั้งรถญี่ปุ่นและยุโรปเช่นกัน
EV Charger มีส่วนช่วยลดปัญหาโลกร้อน รักษาสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงานอย่างไร
ความจริงแล้วการใช้รถ EV และ EV Charger เป็นอีกทางเลือกที่ดี แทนการใช้แก๊สหรือน้ำมันที่ก่อให้เกิดมลพิษค่อนข้างมาก ก็เปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าแทน เป็นพลังงานสะอาดช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ได้มาจากหลายแหล่ง รวมทั้งพลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น พลังงานลม แสงอาทิตย์ หรือน้ำ เป็นการช่วยลดการใช้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติซึ่งนับวันจะมีปริมาณลดลงและมีราคาสูงขึ้น หลายหน่วยงานจึงให้ความสนใจในการศึกษาวิจัยเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในอนาคตสำหรับสังคมไทย
แนวโน้มของสินค้า EV Charger จะเป็นอย่างไร และส่งเสริมให้ใช้ในเมืองไทยเมื่อใด
MEA&PEA มีการกำหนดนโยบายเป็น Road Map Smart Grid โดยมีโครงการ EV รวมอยู่ด้วย คาดว่าภายใน 5 ปีอาจมีการนำมาใช้ในส่วนงานของ Utility และบริษัทที่ดำเนินการด้านพลังงาน ส่วนภาคประชาชนน่าจะมีการนำมาใช้ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่ง ณ ปัจจุบัน การไฟฟ้านครหลวงกำลังศึกษาโครงการเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าและสถานีชาร์จไฟสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของ กฟน. โดยได้สร้างสถานีชาร์จไฟฟ้า 10 แห่งและมีแผนนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ทดลองและศึกษาวิจัยจำนวน 20 คัน
ทั้งนี้เอบีบีได้สนับสนุนเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วรุ่น Terra 51 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่องในโครงการ The Feasibility Study on Quick Chargers for Electric Vehicles ติดตั้งที่การไฟฟ้านครหลวง เขตบางใหญ่ เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องชาร์จไฟฟ้าและผลกระทบของการชาร์จไฟด้วยเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วรุ่นนี้ ต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้าของ กฟน. รวมทั้งพัฒนาระบบการใช้บริการชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อรองรับการใช้งานของประชาชนในอนาคต ล่าสุดเอบีบียังได้ร่วมการวิจัยกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสนับสนุนเครื่องชาร์จไฟฟ้าแบบเร็วรุ่น Terra 53 CJ สำหรับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อการศึกษาวิจัยด้าน Smart Grid และ Smart Mobility ซึ่งหากรัฐบาลส่งเสริมโครงการนี้จริงในอนาคต หน่วยงาน Utility และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีข้อมูลจากการศึกษาวิจัยมาร่วมพิจารณาว่า ประเทศไทยมีความพร้อมมากน้อยเพียงใดในการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้
ผลิตภัณฑ์ EV Charger ของเอบีบีมีจุดเด่นอย่างไร
เนื่องจาก EV Charger เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ทุกมิติด้านโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ดีของคนไทยในอนาคต เอบีบีจึงเน้นการสนับสนุนข้อมูล เข้าร่วมการศึกษาวิจัย Specification ของเครื่องชาร์จไฟฟ้าในตลาด โดยการให้ความรู้ความเข้าใจกับทั้งภาครัฐและเอกชนว่าเครื่องชาร์จไฟฟ้าในตลาดมีเทคโนโลยีอะไรบ้าง มีข้อดีข้อเสียอย่างไร การสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องจะทำให้ลูกค้ามั่นใจว่าเทคโนโลยีของเราดีที่สุด EV Charger ภายใต้แบรนด์เอบีบี มีจุดเด่นเรื่องมาตรฐานด้าน Hardware ของตู้และหัวชาร์จที่สามารถรองรับรถยนต์ทุกค่าย มีความสะดวกยืดหยุ่นต่อการใช้งานที่มีการอัพเกรดให้ทันสมัยในราคาสมเหตุสมผล รวมทั้งมีInfrastructure และระบบสารสนเทศช่วยบริหารจัดการและแชร์ข้อมูลแก่ลูกค้าอย่างถูกต้องแม่นยำ จึงมั่นใจได้ว่าสินค้าของเอบีบีสามารถตอบโจทย์ทุกปัญหามีเทคโนโลยีพร้อมรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอย่างแน่นอน
เชิญมาร่วมสัมผัสประสบการณ์จริงกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ระบบการชาร์ต การจัดเก็บไฟฟ้า เทคโนโลยีล้ำหน้าของ ABB Solar Inverter รุ่น PVS980, PVS100, UNO series พร้อมชมระบบปฏิบัติการ และอุปกรณ์ที่จะมาช่วยจัดการพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ได้ที่งาน ASEAN Sustainable Energy Week 2018 ณ บูธเอบีบี no.J01 ในระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน 2561 เวลา 9.00 – 17.30 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัท เอบีบี จำกัด Tel. 02 665 1000 ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.abb.co.th