กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 07 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,295.30-1,299.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,600 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,730 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,670 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.09 น. ของวันที่ 07/06/61)
แนวโน้มวันที่ 08 มิถุนายน 2561
นายปีเตอร์ แพรต หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวว่า ECB จะหารือในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 14 มิ.ย. ว่าจะยุติการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 2.55 ล้านล้านยูโร (2.99 ล้านล้านดอลลาร์) ในปีนี้หรือไม่ ขณะที่นายเจนส์ ไวด์มันน์ ประธานธนาคารกลางเยอรมัน คาดการณ์ที่ว่า ECB จะยุติแผนการซื้อพันธบัตรภายในสิ้นปีนี้มีความเป็นไปได้ และนายคลาส น็อต ประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์กล่าวว่า ไม่มีเหตุผลที่จะใช้แผนการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป คำกล่าวเหล่านี้ดันยูโรขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามราคาทองคำขยับขึ้นได้ไม่ไกล เพราะแนวโน้มความกังวลเรื่องสงครามการค้าผ่อนคลายลงไปบ้าง ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง ขณะที่นายแลร์รีย์ คัดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐจะพบกับประธานาธิบดี แอมมานูแอล มาครง แห่งฝรั่งเศสและนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด แห่งแคนาดาระหว่างการประชุมสุดยอด G7 ที่แคนาดาในวันที่ 8-9 มิ.ย. ความเห็นดังกล่าวได้สร้างความผ่อนคลายแก่นักลงทุน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวว่า ประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 จะต้องยืนหยัดต้านการตัดสินใจของทรัมป์ในเรื่องการจัดเก็บภาษีเหล็กและอลูมิเนียมจากสหภาพยุโรป แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่ง ฝรั่งเศสและเยอรมนีเตรียมงดเซ็นแถลงการณ์ร่วมการประชุมสุดยอด G7 ซึ่งปกติจะมีการเผยแพร่ภายหลังการประชุม ในระยะสั้นหากราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถทะลุไปได้ ต้องระมัดระวังแรงกดดันเชิงเทคนิค ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอ่อนตัวของราคาทองคำได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้น ขณะที่หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำควรรอดูการตั้งฐานของราคา พร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบและคาดว่าราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการสร้างฐานราคาให้มั่นคง โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคงสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,282 (19,350บาท) 1,271 (19,200บาท) 1,263 (19,050บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,750บาท) 1,315 (19,850บาท) 1,325 (20,000บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,282 (19,480บาท) 1,271 (19,310บาท) 1,263 (19,190บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,860บาท) 1,315 (19,980บาท) 1,325 (20,130บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999