กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความพึงพอใจผลงานของรัฐบาล โดยเก็บจากกลุ่มตัวอย่างจากประชาชนที่ อาศัยอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 1,248 กลุ่มตัวอย่าง เก็บข้อมูลในวันที่ 21 - 25 ธันวาคม 2560 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ใช้เกณฑ์ตารางสำเร็จรูปของ Taro Yamane กำหนดว่า ประชากรเกิน 100,000 คนต้องการความเชื่อมั่น 95% และความผิดพลาดไม่เกิน 3% ต้องใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,111 กลุ่มตัวอย่าง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็นบ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า ผลการสำรวจในครั้งนี้ต่อ ความพึงพอใจผลงานของรัฐบาลในปี 2560 ซึ่งในปี 2560 ได้มีการปรับคณะรัฐมนตรีในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นักการเมืองที่มีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มีความพึงพอใจผลงานของรัฐบาลในปี 2560 อันดับแรกคือพอใจปานกลาง ร้อยละ 42.5 อันดับที่สองคือ พึงพึงพอใจมากร้อยละ 35.7 และ อันดับที่สามคือ พึงพอใจน้อย ร้อยละ 21.8 คิดว่าการปรับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล จะทำให้การบริหารงานประเทศดีขึ้น ร้อยละ 47.7 รองลงมาคือ ไม่ใช่ ร้อยละ 28.1 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 24.2
และอยากให้รัฐบาล นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนมากที่สุด อันดับแรกคือ ปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ร้อยละ 26.2 อันดับที่สองคือปัญหาด้านการศึกษา ร้อยละ17.1 และ อันดับที่สามคือ ปัญหายาเสพติดและการพนัน ร้อยละ 16.7
กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดว่าในปี 2561 ประเทศไทยพร้อมจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่น ร้อยละ 51.6 รองลงมาคือ ไม่พร้อม ร้อยละ 28.5 และไม่แน่ใจ ร้อยละ 19.9 การเลือกตั้งท้องถิ่นคือ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด อบจ. นายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล อบต. เป็นต้น
และอยากได้นักการเมือง ที่มีคุณสมบัติแบบที่มีการปฏิบัติตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ ร้อยละ 24.4 มากที่สุด รองลงมาคือมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ร้อยละ 21.1 และมีความขยันทุ่มเทในการทำงาน ร้อยละ 20.0