กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ
จากนโยบายพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมให้มีการพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีสมรรถนะด้านดิจิทัล ตอบโจทย์การพัฒนาคน 4.0 อีกทั้ง ให้มีการส่งเสริมคนดีสู่สังคม โดยพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้ต้องขัง ผู้พ้นโทษ รวมถึง ครอบครัวผู้ต้องขังให้มีอาชีพ สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุขไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ
ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฎ์วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรม ได้ร่วมพัฒนาความสามารถด้านทักษะดิจิทัล (Digital Literacy) ของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม ให้มีความรู้ความสามารถในทักษะวิชาชีพด้านการใช้เทคโนโลยี เพื่อรองรับนโยบาย Thailand 4.0 ในการพัฒนาบุคลากรภาครัฐให้มีทักษะด้านดิจิทัลและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างดียิ่งขึ้น โดยการทำความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ คือ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในการร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาด้วยมาตรฐานอาชีพและมาตรฐานสมรรถนะความสามารถด้านการใช้ดิจิทัล และส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้เข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ
นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมมีความเป็นห่วงผู้ต้องขังและสมาชิกในครอบครัว เราได้มีการฝึกและพัฒนาอาชีพให้แก่ผู้ต้องขังในระหว่างต้องโทษและหลังพ้นโทษ โดยสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อให้ผู้พ้นโทษ สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข มั่นคง ยั่งยืน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ร่วมมือกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กรมคุมประพฤติ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในการส่งเสริมการทดสอบวัดความรู้ ความสามารถผู้กระทำผิดในการฝึกวิชาชีพเพื่อให้มีการรับรองคุณภาพฝีมือของผู้กระทำผิดและมีมาตรฐานในสาขาอาชีพนั้นๆต่อไปด้วย"
ด้านนายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช. กล่าวว่าตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพกำลังคนของประเทศในทุกๆ สาขาวิชาชีพ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ 20 ปี และตามนโยบายประเทศไทย 4.0…การพัฒนากำลังคนด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญ การพัฒนาบุคลากรกระทรวงยุติธรรม จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเป็นบุคลากรที่จะต้องมีคุณภาพ เพื่อนำความสามารถหรือทักษะที่มีไปใช้ในการดำเนินงานได้ โดย สคช.ได้มีการลงนามความร่วมมือกับกรมคุมประพฤติ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และกรมราชทัณฑ์ ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงยุติธรรม โดยมีเจตจำนงที่จะร่วมขับเคลื่อนและพัฒนาศักยภาพบุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอำนาจหน้าที่ทั้ง3 หน่วยงาน ให้มีคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานสมรรถนะความสามารถด้านการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy)
"ส่วนผู้ต้องขังหรือผู้ที่กระทำความผิด สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มองเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยกันส่งเสริมให้บุคคลเหล่านี้ มีทักษะความสามารถพร้อมจะออกไปอยู่ในสังคมด้วยความปกติสุข จึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนการประเมินสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพที่ผู้กระทำความผิดมีความชำนาญให้มีอาชีพที่ได้รับรองมาตรฐานอาชีพ ซึ่งควรให้การสนับสนุนและคืนคนดีสู่สังคมภายใต้ความร่วมมือที่ได้ดำเนินงานร่วมกัน" นายพิสิฐ กล่าว