กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 08 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,292.70-1,299.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,650 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,810 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,730 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.36 น. ของวันที่ 08/06/61)
แนวโน้มวันที่ 11 มิถุนายน 2561
แนวโน้มการตอบโต้ทางภาษีของสหรัฐ จากบรรดาเหล่าประเทศคู่ค้าทวีความรุนแรงมากขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าที่ชัดเจน กระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ข้อจำกัดและการตอบโต้ทางการค้าทวีความตึงเครียดส่งผลให้ปัญหาซับซ้อนมากขึ้น เม็กซิโกได้ประกาศกำหนดภาษีต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆของสหรัฐ รวมถึง เนื้อสุกรและเหล้า bourbon ซึ่งเม็กซิโกเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่สำหรับเนื้อสุกรสหรัฐ ขณะที่สภาสุรากลั่นของสหรัฐระบุว่า การส่งออกสุราจากสหรัฐเสี่ยงเผชิญภาษีตอบโต้ หากสหภาพยุโรป (EU), แคนาดา, ตุรกี และจีนใช้มาตรการตอบโต้ทางภาษี วิสกี้ของสหรัฐจำนวน 65% จะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้วุฒิสมาชิกสหรัฐจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้เสนอร่างกฎหมายที่จะบีบให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องขออนุญาตจากสภาคองเกรสก่อนที่จะบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงของประเทศ แสดงให้เห็นว่าปัญหาดังกล่าวส่งกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของ ปธน.ทรัมป์ ขณะที่การประชุมสุดยอดครั้งล่าสุดของญี่ปุ่น,สหรัฐ ที่กรุงวอชิงตันดีซี ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งญี่ปุ่นและสหรัฐเตรียมจะการจัดประชุมครั้งใหม่ระหว่างนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนด้านการค้าสหรัฐและนายโทชิมิสึ โมเทกี รัฐมนตรีเศรษฐกิจญี่ปุ่น ภายใต้การเจรจาการค้าระดับทวิภาคีรอบใหม่ในเดือนก.ค.ส่งผลให้ญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้แรงกดดันโดยตรงจากสหรัฐเพื่อเข้าการเปิดตลาดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น แม้ว่าประเด็นสงครามการค้าจะพยุงราคาทองคำไว้ แต่ประเด็นการประชุมสุดยอดระหว่าง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ กับ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ในวันที่ 12 มิ.ย.ที่สิงคโปร์ เพื่อให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ที่เป็นภัยคุกคามต่อนานาประเทศ ขณะที่ปธน.ทรัมป์ เปิดเผยว่าอาจลงนามข้อตกลงยุติสงครามเกาหลีในการประชุมสุดยอดครั้งนี้ ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยถูกลดความน่าสนใจลง แม้สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ชัดเจน แนะนำนักลงทุนสามารถหาจังหวะซื้อเล่นสั้นเมื่อราคาย่อตัวลงไปและไม่หลุดแนวรับ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,307 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,285-1,282 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,280 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,282 (19,400บาท) 1,271 (19,250บาท) 1,263 (19,150บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,850บาท) 1,315 (19,950บาท) 1,325 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,282 (19,560บาท) 1,271 (19,390บาท) 1,263 (19,270บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,950บาท) 1,315 (20,070บาท) 1,325 (20,220บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999