อิเกียจะยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้ง

ข่าวทั่วไป Friday June 8, 2018 16:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--เอบีเอ็ม มุ่งมั่นรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ว่า จะเป็นองค์กรที่สรรค์สร้างแต่สิ่งดีแก่ผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ได้ภายในปี 2573 อิเกียจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่การใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เมือง Älmhult ประเทศสวีเดน, 8 มิถุนายน 2561 – อิเกียให้คำมั่นสัญญาว่า จะยุติการจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้งในสโตร์อิเกียทั่วโลกให้ได้ภายในวันที่ 1 มกราคม 2563 ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้ง ได้แก่ หลอด จาน ถ้วย ถุงแช่แข็ง ถุงขยะ รวมถึงจานและถ้วยกระดาษเคลือบพลาสติก อิเกียตระหนักดีว่า ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้แล้วทิ้งอาจเป็นภัยต่อสัตว์ป่า เช่นเดียวกับที่จะสร้างมลภาวะในมหาสมุทรและแหล่งน้ำต่างๆ หากไม่ได้ผ่านการกำจัดอย่างถูกวิธี เราจึงมุ่งมั่นที่จะร่วมรับผิดชอบและดำเนินการแก้ไขปัญหาเท่าที่เราจะสามารถทำได้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อม อิเกียได้ประกาศคำมั่นสัญญานี้ให้ทุกคนทราบอย่างเป็นทางการในงาน Democratic Design Days ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง Älmhult ประเทศสวีเดน งานนี้รวมนักพัฒนาสินค้าอิเกียจากทั่วโลกซึ่งจะนำเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่พัฒนาขึ้นด้วยวัสดุรีไซเคิลและนวัตกรรมต่างๆ มาจัดแสดง รวมถึงสินค้าที่เอื้อต่อการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเองก็จะได้จัดแสดงในงานด้วยเช่นกัน อิเกียยังได้ประกาศใช้กลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืนภายใต้ชื่อ People and Planet Positive กลยุทธ์ใหม่นี้เป็นตัวกำหนดแนวทางการดำเนินงานของอิเกียทั่วโลกในด้านต่างๆ ได้แก่ การใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศ** การบริหารและดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม อิเกียตั้งใจจะควบคุมการดำเนินงานไม่ให้ส่งผลเสียต่อสภาพอากาศให้ได้ภายในปี 2573 หมายความว่า เราจะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากกว่าที่เราปล่อยก๊าซเหล่านั้นออกมา เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ อิเกียจะต้อง - ออกแบบสินค้าอิเกียทั้งหมดโดยใช้หลักการใหม่ซึ่งก็คือหลักการใช้งานแบบหมุนเวียน เป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ จะต้องใช้เฉพาะวัสดุที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้หรือวัสดุรีไซเคิลเท่านั้น สินค้าของเรายังต้องเอื้อต่อ การดัดแปลง ซ่อมแซม นำกลับมาใช้ใหม่ นำไปขายต่อ และนำไปรีไซเคิล ทั้งนี้ก็เพื่อควบคุมการสร้างของเสียจากสินค้าของเราให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ - บรรจุสินค้าในบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และ/หรือรีไซเคิลได้เท่านั้น - ยุติการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากพลาสติกซึ่งสังเคราะห์จากสารตั้งต้นจำพวกเชื้อเพลิงฟอสซิล - เพิ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม หรือเมนูทางเลือกที่ทำจากผักในรายการสินค้าอาหารของเรา Torbjoern Loeoef ซีอีโอ Inter IKEA Group กล่าวว่า "ความตั้งใจของเรา คือ การเป็นองค์กรที่จะสรรค์สร้างแต่สิ่งดีแก่ผู้คนและสิ่งแวดล้อมให้ได้ภายในปี 2573 ขณะเดียวกันในแง่ของธุรกิจ บริษัทก็จะยังขยายตัวต่อไปตามปกติ ด้วยขนาดของบริษัทและขอบเขตการดำเนินธุรกิจ ผมว่าเรามีโอกาสที่จะสร้างแรงบันดาลใจและทำให้ผู้คนทั่วไปอีกกว่าพันล้านคนใช้ชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้นได้โดยไม่กระทบสิ่งแวดล้อม" "เราจะสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต่อเมื่อเราร่วมแรงร่วมใจและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เรามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำใน การร่วมมือกันครั้งนี้ ส่วนผู้ที่จะมาร่วมสรรค์สร้างสิ่งดีๆ ไปด้วยกันกับเราก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกเสียจากซัพพลายเออร์ พันธมิตรทางธุรกิจ และลูกค้าของเรา" อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะแฟรนไชส์อิเกียที่ดำเนินกิจการอยู่ในภูมิภาค มีสโตร์อิเกียอยู่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ก็ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจระดับโลกนี้ด้วยเช่นกัน โดยมุ่งมั่นที่จะทำงานและปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้ - เพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน ผลิตพลังงานหมุนเวียน และใช้พลังงานหมุนเวียนให้มากขึ้น - ไม่สร้างขยะที่ต้องกำจัดด้วยวิธีฝังกลบ - คัดเลือกเฉพาะผู้ผลิตที่ดำเนินธุรกิจอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมมาร่วมงานกับเราในการจัดหาและจำหน่ายสินค้าและบริการ - บูรณะสโตร์อิเกียที่มีอยู่เดิมและสร้างสโตร์ใหม่ รวมถึงสโตร์ที่เชื่อมกับศูนย์การค้า ให้มีลักษณะถูกต้องตามมาตรฐานอาคารสีเขียว - สนับสนุนการดำเนินกิจการของผู้ประกอบกิจการเพื่อสังคมอย่างน้อยหนึ่งรายในแต่ละตลาดที่เราเข้าไปทำธุรกิจ - สร้างแรงบันดาลใจและช่วยให้พนักงาน ลูกค้า ผู้มาเยี่ยมชมสโตร์ และชุมชนรอบสโตร์ของเราได้ใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดีและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น "เราต้องใช้ความมุ่งมั่นและแน่วแน่อย่างมากเพื่อทำให้ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเราก็กำลังมุ่งหน้าไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยพยายามให้ทุกแผนกคำนึงถึงเรื่องความยั่งยืนในทุกขั้นตอนการทำงานของพวกเขา" มร.ลาร์ช สเวนสัน ผู้อำนวยการด้านความยั่งยืนและการสื่อสาร กล่าวและเสริมว่า "ที่สำคัญที่สุดก็คือ การเชิญชวนให้ลูกค้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องนี้ด้วยสินค้าที่จำหน่ายให้แก่พวกเขา เราหวังจะได้เห็นผู้คนทั่วไปหลายล้านคนปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันในบ้านของพวกเขา ด้วยการประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำ ลดการสร้างขยะ และนำขยะไปรีไซเคิลให้มากขึ้น" สินค้าที่ผลิตจากพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งซึ่งอิเกียจะยกเลิกการจำหน่าย ได้แก่ หลอดดูด รุ่น SODA/ซูดา หลอดดูด รุ่น SÖTVATTEN/เซิตวัตเทน ถุงใส่อาหารแช่แข็ง รุ่น FÖRNYBAR/เฟอร์นือบาร์ (ทั้งหมด 3 สี) และถุงทำน้ำแข็ง รุ่น ISIGA/อิซิกา อ่านเพิ่มเติมที่ กลยุทธ์การสรรค์สร้างสิ่งดีแก่ผู้คนและสิ่งแวดล้อมของอิเกีย เกี่ยวกับ Inter IKEA Group Inter IKEA Group ดำเนินธุรกิจหลักทั้งหมด 3 อย่าง ได้แก่ แฟรนไชส์อิเกีย การผลิตและจัดหาสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์อิเกีย Inter IKEA Systems B.V. จะเป็นเจ้าของแนวคิดการดำเนินธุรกิจของอิเกีย และเป็นเจ้าของแฟรนไชส์อิเกียทั่วโลกด้วย Inter IKEA Systems B.V. พัฒนาแนวคิดแบบอิเกียให้แฟรนไชส์อิเกียทั่วดลกนำไปปฏิบัติตาม เพื่อให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นสามารถปฏิบัติงานตามแนวคิดด้านธุรกิจของอิเกียได้ในระยะยาว ธุรกิจการผลิตและจัดหาสินค้าเป็นธุรกิจที่บริหารจัดการโดย IKEA of Sweden AB ครอบคลุมการพัฒนา ออกแบบ และผลิตเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่ตอบโจทย์ของผู้คนทั่วไปได้ IKEA Supply AG รับหน้าที่เป็นบริษัทผู้ค้าส่งสินค้าอิเกียให้แก่แฟรนไชส์อิเกียทั่วโลก ส่วนธุรกิจอุตสาหกรรมของเราก็เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบการผลิตสินค้าอิเกียทั้งหมดที่ทำจากไม้ เกี่ยวกับอิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อิเกีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริหารจัดการสโตร์อิเกียใน 3 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้านที่มีดีไซน์สวยงาม ฟังก์ชั่นใช้งานดี และมีราคาที่จับต้องได้ใหแก่ผู้คนทั่วไปหลายล้านคนในประเทศเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังบริหารจัดการและพัฒนาศูนย์การค้าอีกหลายแห่งที่เชื่อมอยู่กับสโตร์อิเกีย ร่วมไปกับการสรรค์สร้างจุดนัดพบที่เต็มไปด้วยสีสันและความมีชีวิตชีวา เพราะมีตั้งแต่พื้นที่เพื่อการอยู่อาศัย สำนักงาน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ ทีมงานของเราที่มาจากหลายประเทศทั่วโลกบริหารจัดการโครงการต่างๆ อยู่มากมายและมีความตั้งใจจะผลักดันให้ธุรกิจของเราขยายตัวเป็นสองเท่าให้ได้ผ่านในไม่กี่ปีหลังจากนี้ พวกเราทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของ Ikano Group ผู้ครอบครองสิทธิแฟรนไชส์อิเกียเพียงรายเดียวที่มีตระกูลคัมปราดหรือตระกูลของผู้ก่อตั้งอิเกียเป็นเจ้าของอยู่ เกี่ยวกับอิเกีย ประเทศไทย นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งขึ้นในประเทศสวีเดนเมื่อปี 1943 (พ.ศ. 2486) อิเกียได้มุ่งมั่นสรรสร้างชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ผู้คนทั่วไปในทุกๆ วัน ด้วยการนำเสนอเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่มีรูปแบบหลากหลาย ดีไซน์สวยงาม พร้อมทั้งประโยชน์ใช้สอยคุ้มค่า ในราคาที่ผู้คนทั่วไปเป็นเจ้าของได้ ปัจจุบันอิเกียเป็นบริษัทค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีจำนวนสโตร์มากกว่า 415 แห่ง ใน 49 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งในสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัท อิคาโน่ จำกัด (Ikano Private Limited) เราผนวกแนวคิดด้านความยั่งยืนให้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ และร่วมส่งเสริมโครงการต่างๆ ที่สร้างประโยชน์ให้แก่เยาวชนและสิ่งแวดล้อม อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอิเกียได้ที่ IKEA.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ